ทิศทาง ‘สงครามซีเรีย’ 2018

05 ม.ค. 2561 | 07:41 น.
สงครามซีเรียปะทุขึ้นในปี 2011 เป็นผลสืบเนื่องมาจากปรากฏการณอาหรับสปริงที่โค่นอำนาจผู้นำหลายประเทศในโลกอาหรับ สำนักข่าว Al Jazeera ได้วิเคราะห์สถานการณ์ความขัดแย้งสงครามในซีเรีย จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรายงาน

“นักเคลื่อนไหวที่เราคุยด้วยกล่าวว่าพวกเขาเรียกคนออกมาชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เริ่มประท้วงมา เราคิดว่าพวกเขาทำสำเร็จ แต่ขณะเดียวกัน การประท้วงเมื่อวันศุกร์ กลายเป็นการประท้วงที่มีผู้คนล้มตายมากที่สุดตั้งแต่เริ่มมาเมื่อ 5 สัปดาห์ที่แล้ว”

สงครามซีเรียที่ดำเนินมาเกือบ 7 ปี เป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ และกลุ่มอื่นๆที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน การประท้วงและต่อต้านผู้นำในซีเรียที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2011 ถูกตอบโต้ด้วยมาตรการรุนแรง จนกลายเป็นสงครามจนถึงทุกวันนี้

สหประชาชาติได้พยายามเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพที่เจนีวา สวิสเซอแลนด์ ตั้งแต่ปี 2012 ด้วยจุดประสงค์หลักคือการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมือง แต่สิ่งที่ทำให้การเจรจาไปไม่ถึงไหน เพราะรัฐบาลอิหร่านยืนยันที่แม้แต่จะพิจารณาความเป็นไปได้ของการให้ บาชาร์ อัล อัสสาด ลงจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการในการเจรจาสันติภาพ

บาร์ไลน์ฐาน ปี 2015 รัสเซียเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในซีเรีย เป็นผลให้กำลังสนับสนุนอัสสาดเข้มแข็งขึ้น

ปี 2017 รัฐบาลรัสเซียได้เริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพ ที่อัสตานา คาซัสสถาน โดยมีตุรกีและอิหร่านสนับสนุน

สถานการณ์เหมือนจะมีความคืบหน้า เมื่อกลุ่มติดอาวุธยอมเข้าร่วมโต๊ะเป็นครั้งแรก และจุดประสงค์หลักของการหารือคือการหยุดยิง การจัดการกับนักโทษ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นข้อตกลงพื้นที่ปลอดภัย ที่ดูเหมือนจะล้มเหลว

รัสเซียยังไม่ลดละความพยายาม จะเป็นเจ้าภาพเจรจาอีกครั้งที่โซชิ ปลายเดือนมกราคมนี้

ขณะที่ดูเหมือนว่ารัสเซียและซีเรียจะประสบความสำเร็จในการใช้มาตรการทางทหารเพื่อลดระดับความรุนแรง แต่การที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยืนยันว่าต้องไม่ลืมการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมืองด้วย ทำให้ยากที่อัสสาดจะสามารถกลับมาควบคุมได้ทั้งประเทศ

นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีเหตุการณ์นองเลือดน้อยลงในปี 2018 แต่ความพยายามในการปฏิวัติจะยังมีต่อไป ตราบใดที่อัสสาดยังไม่ลงจากอำนาจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของกลุ่มติดอาวุธ แต่เป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง

ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ตุรกี และประเทศอื่นๆในอ่าวเปอร์เซีย แต่จะไม่มากเหมือนแต่ก่อน

พื้นที่ที่รัฐบาลซีเรียยึดขึ้นมาได้ภายในสองปีที่ผ่านมา สำเร็จเพราะกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ ทหารอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธ ไม่ใช่ด้วยกองทัพซีเรียเองอย่างเดียว

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ท้ายที่สุด ซีเรียจะยังคงได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกในฐานะประเทศ ที่ที่นั่งฐาวรในสหประชาชาติ แต่จะไม่สามารถควบคุมดูแลพื้นที่ในเขตแดนของตนเองได้ทั้งหมดอยู่ดี

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6-15