‘แสนสิริ’ตั้งธงยึดเชียงใหม่ เล็งหาที่ดินผุดอสังหาฯทุกมิติ-ดีคอนโดพิงค์6เดือนเกลี้ยง

02 ม.ค. 2561 | 02:16 น.
แสนสิริยิ้ม แค่ 6 เดือนปิดการขาย “ดีคอนโด พิงค์” 687 ยูนิต มูลค่ากว่า 1.8 พันล้าน มั่นใจตลาดเชียงใหม่ยังบูม

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า แสนสิริประกาศปิดโครงการ “ดีคอนโด พิงค์” มูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยจำนวน 687 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ โดยใช้เวลาขายเพียง 6 เดือน โดยแบรนด์ดีคอนโดนับเป็นแบรนด์โครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่บนทำเลถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ติดเซ็นทรัล เฟสติวัล ซึ่งปัจจุบันพื้นที่นี้ได้พัฒนาเป็นโครงการดีคอนโด และปิดการขายไปแล้วถึง 3 โครง การ ได้แก่ ดีคอนโด ซายน์, ดีคอนโด นิม และล่าสุด ดีคอนโด พิงค์ จำนวนรวมกว่า 2,000 ยูนิต เพื่อให้เป็นเสมือนคอมมิว นิตีส่วนตัวของลูกบ้าน ด้วยวิสัยทัศน์ของแสนสิริในการคัดสรรทำเลศักยภาพในการพัฒนาโครงการมาโดยตลอด

“สำหรับการพัฒนาโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงวันนี้ เรามั่นใจว่าเราได้พิสูจน์ศักยภาพของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในชื่อเสียงของแสนสิริที่ได้รับการยอมรับทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ ซึ่งทีมงานได้อาศัยการลงพื้นที่จริง ศึกษาวิถีชีวิต ไลฟ์สไตล์ และให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งรูปแบบของห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่แตกต่างจากโครงการอื่น รวมถึงการเอาใจใส่ด้านการบริการหลังการขายให้เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่ถือเป็นเส้นทางหลักของเชียงใหม่ และมีแนวโน้มในการขยายตัวได้อีกมาก ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งมีสัดส่วน 55:45 ตามลำดับ ซึ่งมีอัตราการปล่อยเช่าตั้งแต่ 1-2.5 หมื่นบาทต่อเดือน”

TP15-3327-1A นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวโน้มการขยายโครงการของแสนสิริในอนาคต ยังมองเห็นศักยภาพของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังไปได้อีกไกล และคาดว่าจะมีการเร่งขยายตัวสูงขึ้นอีกเพื่อรองรับแผนการพัฒนาเมืองของรัฐบาล โดยแสนสิริยังคงมองหาทำเลที่เหมาะสมในทุกๆ ด้าน ในการพัฒนาโครงการทั้งในแนวราบ และแนวสูง เพื่อสอดรับกับความต้องการที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวราบ หรือโครงการบ้านเดี่ยวในแบรนด์เศรษฐสิริ หรือกลุ่มตลาดระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งขณะนี้โครงการเศรษฐสิริ สันทราย มียอดขายไปกว่า 95% แล้ว และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในไตรมาสแรกของ ปี 2561 อย่างแน่นอน

โดยปัจจุบัน แสนสิริยังมีการขายโครงการบ้านเดี่ยวอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเศรษฐสิริ สันทราย และบุราสิริ สันผีเสื้อ และเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายสุดท้ายปลายปี แสนสิริจึงจัดโปรโมชันพิเศษ อาทิ ฟรีค่าใช้จ่ายการโอน และค่าส่วนกลาง 1 ปี พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 300,000 บาทสำหรับบุราสิริ สันผีเสื้อ และส่วนลดสูงสุดถึง 2 ล้านบาท

สำหรับเศรษฐสิริ สันทราย โดยลูกค้ายังได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นด้วยบริการ Alexa Voice Service เทคโนโลยีระดับโลกจาก Amazon Web Services มาใช้เพื่อพัฒนาบริการและฟังก์ชันใหม่ๆ ของ Home Service Application โดยรับคำสั่งพื้นฐานการใช้งานของฟังก์ชันต่างๆ ที่สอดรับกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบยอดค่านํ้า ค่าไฟ ตรวจเช็กพัสดุ การจองและตรวจสอบสถานะการใช้งานของพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ เพื่อให้เติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ อีกด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,327 วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 - 3 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9