เริงร่ารับปีใหม่กับ จุด Check in สุดเก๋ เนรมิตพื้นที่สุดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงจุดเริ่มต้นที่งดงามในปี 2018

ในทุกๆ วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี ทุกคน ต่างตั้งเป้าและปักหมุดความตั้งใจใหม่ๆ ในชีวิตอยู่เสมอ ไม่ว่า 365 วันที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร วันนี้คือก้าวใหม่ที่ควรค่าแก่การเริ่มต้นเป็นที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจว่าทุกวันขึ้นปีใหม่จะพบเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและโอบกอดแห่งความสุขในสถานที่ต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่ครอบครัวที่หิ้วลูก จูงหลานออกมาท่องเที่ยวแต่สถานที่สำคัญของประเทศไทยอย่างศูนย์การค้า โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองกรุงและหัวเมืองต่างๆ พร้อมใจกันจัดงานเพื่อแสดงออกถึงการเฉลิมฉลองรับศักราชใหม่และร่วมเดินไปบนเส้นทางใหม่สำหรับจุดเริ่มต้นของทุกคน

จริงๆ แล้ววันขึ้นปีใหม่ที่เรารู้จักกันในปฏิทินมีหลากหลายธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์โดยคำนวณจากดาราศาสตร์และเลือกวันที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย โดยจะอยู่ระหว่างวันที่ 13 หรือ 14 เมษายน แต่ปัจจุบันระบุชัดเจนในวันที่ 13-15 เมษายน หรือจะเป็นตรุษจีนโดยเริ่มต้นเดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีนเป็นวันปีใหม่ของชาวจีน ที่สำคัญยังมี ตรุษญวน ตรุษญี่ปุ่น อีกด้วย แต่สำหรับวันขึ้นปีใหม่แบบสากลในปัจจุบันคือวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี

[caption id="attachment_246046" align="aligncenter" width="503"] คาแรกเตอร์กวางเรนเดียร์สุดน่ารัก ออกแบบโดย มร.ฮาวิเย่ กอนซาเลซ บรูโกส[/caption]

เมื่อมองย้อนไปในอดีตชาวบาบิโลเนียคือผู้เริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทินโดยอาศัยระยะต่างๆ ของดวงจันทร์ในการนับ เมื่อครบ 12 เดือนจะกำหนดว่าเป็น 1 ปี แต่ต่อมาชาวอียิปต์ กรีกได้นำปฏิทินดังกล่าวมาแก้ไขเพื่อให้สอดรับฤดูกาล จนกระทั่งสมัยของกษัตริย์จูเลียส ซีซาร์ ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ชื่อ โยซิเยนิส มาปรับปรุง ให้ปีหนึ่งมี 365 วัน ในทุกๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า อธิกสุรทิน จากนั้นพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 ทำการปรับปรุงปฏิทินอีกครั้งจนกลายเป็น ปฏิทินเกรโกเรียน และประกาศใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมาจวบจนถึงปัจจุบัน

ถือได้ว่าในทุกๆ วันที่ 1 เดือนมกราคม เป็นจุดเริ่มต้นศักราชใหม่ของหลากหลายศักราชที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ไม่เพียงเท่านั้น วันที่ 1 เดือนมกราคมยังเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายๆ คนในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ที่ใจหวัง และจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในการทำให้วันดังกล่าวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสุข คือ การเฉลิมฉลอง และสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองที่ได้รับการไหลเทมาจากชาวตะวันตก คือ ต้นคริสต์มาส

ในวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ต้นคริสต์มาส สื่อความหมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ แม้เป็นตัวแทนที่แสดงออกถึงการทำบาปของอาดัมและเอวามนุษย์คนแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นจากดินตามคติของศาสนาอับราฮัม ในการหยิบผลไม้มากิน แต่ในปัจจุบันต้นดังกล่าวกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเทศกาลคริสต์มาส ส่วนใหญ่ทำมาจากต้นสนประดับประดาด้วยของขวัญ และไฟส่องสว่าง ที่สำคัญชาวคริสต์เชื่อว่าการตั้งต้นคริสต์มาสมีความหมายถึง ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต ที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล อีกทั้งยังสื่อถึงการรวมกันของครอบครัว ชุมชนและสังคม

สำหรับประเทศไทยได้นำเอาต้นคริสต์มาสมาเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองเช่นกันโดยเฉพาะในมิติของความสุขผ่านการถ่ายรูป บันทึกความทรงจำ และเป็นจุดเชื่อมโยงการพบปะกันของกลุ่มเพื่อน ครอบครัว และสังคม คงจะดีไม่น้อยที่เราจะได้ทราบว่าศูนย์การค้าใหญ่ๆ ที่ดึงดูดพวกเราให้เดินทางไปถ่ายรูป หรือเพียงเดินผ่านก็สะดุดตามีธีมการตกแต่งและการรังสรรค์อย่างไร เพื่อให้การชมไม่ใช่เพียงการมองเฉพาะความงามแต่ยังแฝงไปด้วยแนวคิดที่สามารถนำไปเล่าต่อ เพิ่มจินตนาการและความประทับใจไม่รู้จบ

>> Central World
ต้นคริสต์มาสที่ติดตาและเป็นไฮไลต์ที่สำคัญของทุกปี เรียกได้ว่า เมื่อพูดถึงต้นคริสต์มาสและธีมการตกแต่งที่แปลกใหม่ในทุกช่วงของศักราช จนทำให้เราต้องลุ้นและรอคอยอย่างตื่นเต้น คือ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในปีนี้มีความพิเศษอย่างน่าสนใจ เมื่อทางบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น นำเอาศิลปินชื่อดังด้านอิลลัสเตรเตอร์อย่าง มร.ฮาวิเย่ กอนซาเลซ บรูโกส (Mr. Javier Gonzlez Burgos) มารังสรรค์คาแรกเตอร์คริสต์มาสครั้งนี้

“ผมรู้สึกว่าคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่สำคัญเพราะเราสามารถร่วมแบ่งปันความรักความสุขได้ในช่วงเวลานี้ และเมืองไทยเป็นสถานที่ที่มีผู้คนที่เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส มองโลกในแง่บวก จึงเหมาะสมที่จะรับสารแห่งความสุขที่ผมสร้างสรรค์ ผ่านผลงานศิลปะที่จะตกแต่งภายในศูนย์การค้าของซีพีเอ็น ทั้ง 30 สาขา”

การประดับตกแต่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัล ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แคมเปญ “The Dazzling Celebration”เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ดินแดนแห่งของขวัญที่คุณจะต้องนึกถึงในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ยก Christmas Market ในยุโรป จำลองกลิ่นอายเมืองสทราซบูร์ ประเทศฝรั่งเศส เปิดตัวอาร์ตอินสตอลเลชัน นำโดย ประติมากรรมซานตาคลอส สูงกว่า 5 เมตรและผองเพื่อนทั้ง เรนเดียร์ กระรอก หมีขาวขั้วโลก เม่น ตุ๊กตาไม้นัทแคร็กเกอร์ และอีกมากมายในอิริยาบถต่างๆ รวม 10 คาแรกเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ มร.ฮาวิเย่ กอนซาเลซ บรูโกส โดยประติมากรรมทุกชิ้นผลิตจากไฟเบอร์กลาส ความสูงตั้งเเต่ 50 เซนติเมตร ถึง 5 เมตร ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นแต่ละสาขาจะเลือกใช้เพียง 1 คาแรกเตอร์ แต่ที่เซ็นทรัลเวิลด์จะพิเศษกว่าทุกสาขาตรงที่ ประดับผลงานครบทั้ง 10 คาแรกเตอร์ และมีซานตาคลอสขยับได้ สูงกว่า 5 เมตร คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

[caption id="attachment_246043" align="aligncenter" width="503"] ปราสาทแห่งเวทมนตร์ จำลองภาพการเฉลิมฉลองของเหล่าพ่อมด แม่มด การเนรมิตสถานที่สุดพิเศษ โดยสยามพารากอน[/caption]

>> Siam Paragon
“ศูนย์การค้าสยามพารากอน” ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขและครบรอบ 12 ปี เนรมิตพื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เป็นดินแดนสุดมหัศจรรย์ ประดับไฟต้นคริสต์มาสและตกแต่งแสงไฟอันเจิดจรัส ส่งมอบความสุขเป็นของขวัญสุดประทับใจ ในคอนเซ็ปต์ “The Magic Castle” โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณด้านหน้าทางเข้าศูนย์การค้า ที่ประดับต้นคริสต์มาสสีขาวขนาดยักษ์ ด้านข้างตกแต่งด้วยป่าสนสีขาวล้อมรอบ ส่องประกายระยิบระยับสวยงามราวกับต้องมนตร์ เมื่อเข้าไปภายในโซนจีเวลจะพบกับปราสาทแห่งเวทมนตร์ที่โดดเด่นด้วยหอนาฬิกา อันแสดงให้เห็นถึงเวลาที่กำลังจะข้ามผ่านไปยังปีถัดไป ส่วนบันไดเวียนเป็นโซนที่เชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆ ประดับไปด้วยรูปภาพเคลื่อนไหวเพื่อแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นโดยรอบภายในปราสาท และด้านหลังคือโรงนกฮูกซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของนกฮูกทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในปราสาท โดยในโลกเวทมนตร์พ่อมดและแม่มดจะใช้นกฮูกสำหรับส่งจดหมายและพัสดุให้แก่กัน

นอกจากต้นคริสต์มาสที่งดงามและสร้างสรรค์ กิจกรรมถือเป็นอีกหนึ่งความเชื่อมโยงที่ทำให้เทศกาลปีใหม่ดูสดใสและมีชีวิตชีวา โดยทางห้างร้านและภาคธุรกิจต่างๆ ร่วมกันพาเหรดจัดงานอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ “Siam TheGreat Celebration” ที่ได้รวบรวมกิจกรรมสนุกพร้อมทั้งโปรโมชันส่งเสริมการขายมากมาย เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า เช่นเดียวกันกับ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ลํ้าเทรนด์ ตอกยํ้าการเป็นศูนย์การค้าที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในงาน “Siam Center Happy Go Witty” ชวนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่มาร่วมอัพเดตเทรนด์แห่งอนาคตของปีหน้า ไปกับความสนุกสนาน(Amazed) แรงบันดาลใจใหม่ๆ (Inspired)และ การปฏิวัติตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง (Revolution)

>> Siam Discovery
นอกจากความงามของคริสต์มาสในธีมหลักของสองห้างใหญ่แล้ว สยามดิสคัฟเวอรี่มุ่งสะท้อนถึงความสร้างสรรค์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ คือ ด้วยการนำพลาสติกที่เหลือใช้มาประกอบขึ้นเป็นต้นคริสต์มาส โดยไอเดียดังกล่าวจัดขึ้นภายในงาน “Siam Discovery New World New You” ซึ่งทางสยามดิสคัฟเวอรี่ให้ความสำคัญในการเติมเต็มความสุขให้กับทุกคน พร้อมใส่ใจการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยพัฒนาตนเองไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงโลก โดยใช้เทศกาลปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นเช่นกันในการเริ่มครีเอตต้นคริสต์มาส “Upcycling X’mas” ที่ไม่ธรรมดาด้วยการนำพลาสติกเหลือใช้โดยร่วมกับ PTTGC มาประกอบขึ้นเป็นต้นคริสต์มาส มีความสูง 5 เมตร พร้อมหมีขาวตัวใหญ่ที่ทำจากถุงพลาสติก ขนาดสูง 3.60 เมตร เมื่อประดับไฟแล้วแสงจะระยิบระยับเรืองแสงเสมือนอยู่ในทะเล เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองที่สร้างสรรค์ด้วยความงดงาม

[caption id="attachment_246040" align="aligncenter" width="335"] Upcycling X’mas[/caption]

ต้นคริสต์มาส “Upcycling X’mas” จะตั้งถึงวันที่ 2 มกราคม 2561 พร้อมจัดตั้งตู้ “Trash to Treasure Machine” บริเวณทางเข้าชั้น M สยามเซ็นเตอร์ สำหรับหย่อนขวดพลาสติกเพื่อนำไปมอบให้กับ PTTGC นำไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อผลิตเป็นสินค้าแฟชั่นกระตุ้นจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มองเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของขยะที่สามารถสร้างมูลค่าได้มากขึ้นกว่าเดิมพร้อมรับสิทธิพิเศษ นอกจากนี้ยังมี Exhibition Upcycling เป็นนิทรรศการเพื่อตระหนักถึงสถานการณ์ขยะในทะเลมาให้ชมอีกด้วย

พร้อมกันนี้ทางสยามดิสคัฟเวอรี่พร้อมตอกยํ้า ความเป็น “The Center of Gift Personalization” เติมความสุขให้กับผู้รับและผู้ให้ด้วยโซน “Gift Lab” อาณาจักรของขวัญที่สามารถมาค้นหา ค้นพบของขวัญหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับทุกคน เป็นมุมพิเศษที่สามารถครีเอตของขวัญให้เป็นชิ้นเดียวในโลก กับบริการ Personalize Sevice ไม่ว่าจะเป็นตอกชื่อ, ทำเทียนหอม, พวงกุญแจสลักชื่อ, เขียนคัลลิกราฟฟี่, แว็กซ์สแตมป์ หรือเพนต์ พร้อมเลือกกระดาษห่อของขวัญหลากหลายรูปแบบหรือประดับด้วยอุปกรณ์สุดเก๋ที่สยามดิสคัฟเวอรี่เตรียมให้ ซึ่งสามารถมาสนุกกับการออกแบบได้อย่างไม่สิ้นสุด ที่บริเวณชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่

อย่างไรก็ดีเมื่อร่วมกิจกรรมสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ คือ “ของขวัญ” โดยทางสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ได้เปิดแหล่งคอมมิวนิตีของคนรักษ์โลก “ECOTOPIA” ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักในไลฟ์สไตล์แบบกรีนๆ ที่แรกของเอเชียในคอนเซ็ปต์วิถีชีวิตของคนทันสมัยให้มาค้นพบอีกนิยามของการรักษ์โลก ผ่านสินค้า ของใช้ ของแต่งบ้าน อีโคฟูด เครื่องสำอางและเสื้อผ้าแฟชั่นออร์แกนิก เครื่องเขียนและแกดเจตแนวอีโคหลายๆ แบรนด์ พร้อมสินค้าที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีใดๆ และหลากหลายสินค้าที่ผลิตด้วยใจและสองมือ อาทิ ตุ๊กตาไม้แกะสลัก จาก The Missing Garden, กระดาษห่อขี้ผึ้ง Superbee Wax Wrap Beeginnerset และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ทุกคนยังสามารถเพลิดเพลินไปกับแสงไฟอันงดงามที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของความสุข ความสนุก และสีสันของชีวิต อาทิ กิจกรรมไฟล้านดวงย่านราชประสงค์ การันตีด้วยเทศกาลประดับไฟและจุดเคาต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ ทั่วโลกต่างจัดอันดับให้ ย่านราชประสงค์ ประเทศไทย ติดอันดับ 6 ของโลก บนถนนที่กว้างที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ถึง 21 อาคารทั่วย่าน และเป็นย่านที่ประดับไฟทางเดินลอยฟ้า “Ratchaprasong Walk” ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยอย่างไร้รอยต่อรอบทิศทางดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมไฟถึง 54 ล้านคนต่อปี

[caption id="attachment_246436" align="aligncenter" width="503"] งานแสดงแสง สี เสียง สุด ตระการตา บนอาคารโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์[/caption]

>> Magnolias Ratchadamri Boulevard
ที่สำคัญในปีนี้ ย่านราชประสงค์ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” ที่มาพร้อมกิจกรรมการจัดแสดงแสงสีเสียงในรูปแบบ 3 มิติ หรือ 3D Mapping Projection บนอาคารโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ที่มีความสูงกว่า 60 ชั้น พร้อมด้วย 9 มุมเด็ดในการชมไฟเคล้ากับอาหารและเครื่องดื่มอันนุ่มลึก ไม่ว่าจะเป็น ห้องลับของโจรสลัด Pirate Chambre, Beer Republic โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์,Theo Mio โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ และ Burger & Lobster สาขาแรกในไทย ที่เกษรวิลเลจ ชั้น G เป็นต้น

อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับ แสง สี เสียงที่งดงาม คือ การจัดงาน “ศิลป์แสง แห่งแรงบันดาลใจ” (Thailand Illumination Festival 2017) โดยจัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเผยแพร่พระอัจฉริย-ภาพทางดนตรีของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรและเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยจัดซุ้มนิทรรศการ “ในหลวง ในดวงใจ” พร้อมเนรมิตพื้นที่ลานกิจกรรมกว่า 39 ไร่ จัดเป็นสวนเรืองแสง ตระการตากับไฟ LED กว่าล้านดวง รายล้อมด้วยประติมากรรมสีสันแห่งไฟในหลากหลายรูปแบบ เป็นปรากฏการณ์ “แสงไฟ สู่แรงบันดาลใจแห่งชีวิต” สร้างแลนด์มาร์ก แห่งใหม่ย่านรัชดาภิเษก ต้อนรับฤดูหนาว ในปี 2560 ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงการเริ่มต้นศักราชใหม่ ในปี 2561 ที่ลานกิจกรรม ถนนรัชดาภิเษก ซอย 8 หรือตรงข้ามศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก

หลากหลายกิจกรรมที่ถูกปรุงแต่งขึ้นจากทุกภาคส่วนคือจุดเชื่อมโยงที่สำคัญสำหรับการสร้างความสุขในเทศกาลปีใหม่ 2018 นี้ นอกจากการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตด้วยการนับหนึ่ง คือหนึ่งของขวัญชิ้นใหญ่ที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้พร้อมกับก้าวต่อไปด้วยความตั้งใจและทำสิ่งที่คาดหวังอันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคมและประเทศชาติให้กลายเป็นจริงอย่างเชื่อมั่น

ฉะนั้นก่อนจะนับถอยหลังหรือเคาต์ดาวน์ในปลายปีนี้ เราทุกคนต่างเริ่มต้นที่ 1 เสมอ ฉะนั้นขอให้วันที่ 1 มกราคมนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทุกคน สวัสดีปีใหม่ Happy New Years 2018

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,327 วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 - 3 มกราคม พ.ศ. 2561 2561