สภาวิศวกรแนะเปิดไฟหน้ารถลดอุบัติเหตุตัดวงจรไฟก่อนออกจากบ้าน
สภาวิศวกรแนะ เปิดไฟหน้ารถลดอุบัติเหตุ ตัดวงจรไฟก่อนออกจากบ้าน พร้อมเผยแนวทางป้องกันเหตุเรือชนสะพาน
นายไกร ตั้งสง่า อุปนายกสภาวิศวกร เผยว่า ปัจจุบัน อุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศไทยติดอันดับหนึ่งของโลกและอาเซียน ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจาก คนขับมองไม่เห็นรถ ด้วยสภาพทัศนวิสัยที่มีหมอกในตอนเช้าช่วงหน้าหนาว หรือการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และที่สำคัญการขับขี่ด้วยความประมาท สภาวิศวกรจึงได้เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกบังคับใช้เป็นกฎหมายให้ผู้ที่ขับขี่รถเปิดไฟหน้ารถ เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับค่ายรถยนต์ในการติดตั้งไฟ Daytime Running Light ( DRL) ซึ่งรถยนต์ทุกคนควรจะติดตั้ง เพื่อให้รถยนต์คันอื่นมองเห็น ซึ่งจากการทดสอบพบว่า รถยนต์ที่ติดไฟ DRL จะสามารถช่วยให้เห็นรถในระยะ 1,400 เมตร หากไม่ติดตั้งไฟ DRL จะเห็นในระยะ 670 เมตรเท่านั้น และการเปิดไฟหน้ารถจะสามารถลดอุบัติเหตุได้ถึง 30 % สภาวิศวกรจึงขอแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางไปพักผ่อนในช่วงหยุดปีใหม่ร่วมกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุด้วยการเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา
ด้านนายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานคณะทำงานส่งเสริมความปลอดภัยด้านอัคคีภัย สภาวิศวกร กล่าวถึงการป้องกันอัคคีภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สภาวิศวกรเชื่อว่า “อัคคีภัยป้องกันได้ แค่ใส่ใจไม่ประมาท” ดังนั้นช่วงเทศกาลวันหยุดนี้จะมีความสุขได้เต็มที่ปราศจากความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนใส่ใจในเรื่องไฟฟ้าในบ้านก่อนออกจากบ้าน ดังนี้
1.ตัดวงจรไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นหรือปิดสวิตช์ ปิดพัดลม และดึงปลั๊กไฟฟ้าออกจากเต้ารับไฟฟ้าออกให้หมด หรืออาจเหลือให้น้อยที่สุด เช่น ตู้เย็น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และปั๊มลมตู้ปลา 2.ปิดก๊าซหุงต้มที่หัวถังให้สนิท (ระวังก๊าซที่ค้างในท่ออ่อน แนะนำให้จุดเตาไฟก่อนแล้วค่อยปิดที่หัวถัง) 3. ตรวจสอบธูปเทียนที่จุดไว้ ดับให้หมด แล4. หญ้าแห้งรอบๆ บ้าน ควรตัดให้สั้นและนำไปกำจัดหรือทิ้งให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งขณะสมาชิกในครอบครัวยังอยู่อาศัยในบ้านไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ซึ่งความสูญเสียอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น สภาวิศวกรจึงขอแนะนำการดูแลบ้านอยู่อาศัยให้ปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน 10 ประการ ดังนี้
1. ติดตั้งอุปกรณ์เตือนควันไฟ (Smoke Alarm) ที่โถงหน้าห้องนอน และในห้องนอน ทุกห้อง
2. ทุกห้องนอนต้องมีทางหนีไฟสำรองเสมอ เช่น หน้าต่าง ประตู ระเบียง ถ้ามีเหล็กดัดต้องเปิดได้จากด้านในเสมอ
3. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องปิดสวิตช์และดึงปลั๊กไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก
4. ปลั๊กไฟพ่วง ต้องไม่เสียบซ้อนกันหลายชั้น และต้องมีคุณภาพดี
5. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องปิดก๊าซหุงต้มที่หัวถังให้สนิท
6. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องตรวจสอบธูปเทียนที่จุดไว้ ต้องดับให้หมด
7. สมาชิกในบ้านต้องทราบหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน สถานีดับเพลิงที่ใกล้เคียง หรือหมายเลขแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199
8. ควรวางแผนและซ้อมหนีไฟ และให้เก็บกุญแจบ้านและไฟฉายในที่ที่เหมาะสม และบอกให้สมาชิกในบ้านทราบ
9. ให้มีเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ
10. อุปกรณ์ไฟฟ้าและการเดินสายไฟ ต้องที่มีมาตรฐานรับรอง
สำหรับการณีเรือชนตอม่อสะพานท่าจีนถล่มนั้น นายอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เผยถึงเหตุการณ์สะพานถล่ม เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้าชนเสาตอม่อ สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนที่ อ. นครชัยศรี จ.นครปฐม จนทำให้สะพานพังถล่มลงมา ว่า สภาวิศวกรได้ส่งคณะผู้ชำนาญการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวร่วมกับกรมเจ้าท่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยนายชูเลิศ จิตเจือจุน และ นายวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ ผู้ชำนาญการพิเศษฯ ร่วมกันเปิดเผยถึงสาเหตุเบื้องต้น ว่าเกิดขึ้นจากเรือบรรทุกถั่ว (เรือเปล่า) แล่นมาชนฐานรากสะพาน ที่ช่วงกลางของสะพาน ด้วยน้ำหนักเรือที่มากถึง 900 ตัน แม้จะแล่นด้วยความเร็วไม่มาก แต่ก็ทำให้เกิดแรงทางด้านข้างปริมาณมาก จนทำให้ฐานรากของสะพานเคลื่อนที่ในแนวราบ ส่งผลให้ตอม่อของสะพานที่มีความสูงมากเคลื่อนที่ตาม จนทำให้คานคอนกรีตที่วางไว้ที่หัวเสาตอม่อ หลุดออก และร่วงหล่นลงมา นอกจากนี้คานที่ร่วงหล่นยังดึงรั้งให้ตอม่อสะพานที่อยู่ใกล้ฝั่ง หักโค่นตามมาด้วยกันอีก นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกต จากสภาพการวิบัติของเสาตอม่อสะพาน ที่หักโค่นลงมาว่า
1. คอนกรีตที่ใช้ มีกำลังอัดไม่สูงมาก เพราะจากซากที่เหลือ จะเห็นว่ามีการแตกป่นเป็นเศษเล็กๆอยู่มาก
2. จุดที่เสาหักโค่น อยู่ที่บริเวณโคนเสา ซึ่งตรงกับบริเวณที่มีการต่อทาบเหล็กพอดี (weak point) ซึ่งที่บริเวณนี้ ไม่ควรมีการต่อทาบเหล็ก เพราะเป็นจุดที่รับแรงดันสูงสุด
นาย อมร พิมานมาศ เปิดเผยต่อว่าสำหรับการออกแบบและก่อสร้างสะพานที่มีความยาวช่วงตั้งแต่ 10 ม. ขึ้นไปเข้าข่ายเป็นวิศวกรรมควบคุม ต้องใช้วิศวกรที่มีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร ทำการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งตรวจสอบสะพานอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับแนวทางป้องกันเรือชน ตามมาตรฐานสากล สามารถแบ่งได้เป็น 4 วิธี คือ 1. ออกแบบโครงสร้างให้มีความแข็งแรง 2. ออกแบบตัวสลายพลังงานหรืออุปกรณ์ป้องกันการกระแทก 3. ออกแบบตอม่อให้อยู่ใกล้ฝั่ง และ 4.ออกแบบและก่อสร้างเกาะล้อมเสาตอม่อ ในกรณีที่มีพื้นที่เพียงพอ
นายไกร ตั้งสง่า อุปนายกสภาวิศวกร เผยว่า ปัจจุบัน อุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศไทยติดอันดับหนึ่งของโลกและอาเซียน ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจาก คนขับมองไม่เห็นรถ ด้วยสภาพทัศนวิสัยที่มีหมอกในตอนเช้าช่วงหน้าหนาว หรือการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และที่สำคัญการขับขี่ด้วยความประมาท สภาวิศวกรจึงได้เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกบังคับใช้เป็นกฎหมายให้ผู้ที่ขับขี่รถเปิดไฟหน้ารถ เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับค่ายรถยนต์ในการติดตั้งไฟ Daytime Running Light ( DRL) ซึ่งรถยนต์ทุกคนควรจะติดตั้ง เพื่อให้รถยนต์คันอื่นมองเห็น ซึ่งจากการทดสอบพบว่า รถยนต์ที่ติดไฟ DRL จะสามารถช่วยให้เห็นรถในระยะ 1,400 เมตร หากไม่ติดตั้งไฟ DRL จะเห็นในระยะ 670 เมตรเท่านั้น และการเปิดไฟหน้ารถจะสามารถลดอุบัติเหตุได้ถึง 30 % สภาวิศวกรจึงขอแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางไปพักผ่อนในช่วงหยุดปีใหม่ร่วมกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุด้วยการเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา
ด้านนายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานคณะทำงานส่งเสริมความปลอดภัยด้านอัคคีภัย สภาวิศวกร กล่าวถึงการป้องกันอัคคีภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สภาวิศวกรเชื่อว่า “อัคคีภัยป้องกันได้ แค่ใส่ใจไม่ประมาท” ดังนั้นช่วงเทศกาลวันหยุดนี้จะมีความสุขได้เต็มที่ปราศจากความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนใส่ใจในเรื่องไฟฟ้าในบ้านก่อนออกจากบ้าน ดังนี้
1.ตัดวงจรไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นหรือปิดสวิตช์ ปิดพัดลม และดึงปลั๊กไฟฟ้าออกจากเต้ารับไฟฟ้าออกให้หมด หรืออาจเหลือให้น้อยที่สุด เช่น ตู้เย็น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และปั๊มลมตู้ปลา 2.ปิดก๊าซหุงต้มที่หัวถังให้สนิท (ระวังก๊าซที่ค้างในท่ออ่อน แนะนำให้จุดเตาไฟก่อนแล้วค่อยปิดที่หัวถัง) 3. ตรวจสอบธูปเทียนที่จุดไว้ ดับให้หมด แล4. หญ้าแห้งรอบๆ บ้าน ควรตัดให้สั้นและนำไปกำจัดหรือทิ้งให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งขณะสมาชิกในครอบครัวยังอยู่อาศัยในบ้านไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ซึ่งความสูญเสียอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น สภาวิศวกรจึงขอแนะนำการดูแลบ้านอยู่อาศัยให้ปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน 10 ประการ ดังนี้
1. ติดตั้งอุปกรณ์เตือนควันไฟ (Smoke Alarm) ที่โถงหน้าห้องนอน และในห้องนอน ทุกห้อง
2. ทุกห้องนอนต้องมีทางหนีไฟสำรองเสมอ เช่น หน้าต่าง ประตู ระเบียง ถ้ามีเหล็กดัดต้องเปิดได้จากด้านในเสมอ
3. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องปิดสวิตช์และดึงปลั๊กไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก
4. ปลั๊กไฟพ่วง ต้องไม่เสียบซ้อนกันหลายชั้น และต้องมีคุณภาพดี
5. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องปิดก๊าซหุงต้มที่หัวถังให้สนิท
6. ก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้าน ต้องตรวจสอบธูปเทียนที่จุดไว้ ต้องดับให้หมด
7. สมาชิกในบ้านต้องทราบหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน สถานีดับเพลิงที่ใกล้เคียง หรือหมายเลขแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199
8. ควรวางแผนและซ้อมหนีไฟ และให้เก็บกุญแจบ้านและไฟฉายในที่ที่เหมาะสม และบอกให้สมาชิกในบ้านทราบ
9. ให้มีเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ
10. อุปกรณ์ไฟฟ้าและการเดินสายไฟ ต้องที่มีมาตรฐานรับรอง
สำหรับการณีเรือชนตอม่อสะพานท่าจีนถล่มนั้น นายอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เผยถึงเหตุการณ์สะพานถล่ม เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้าชนเสาตอม่อ สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนที่ อ. นครชัยศรี จ.นครปฐม จนทำให้สะพานพังถล่มลงมา ว่า สภาวิศวกรได้ส่งคณะผู้ชำนาญการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวร่วมกับกรมเจ้าท่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยนายชูเลิศ จิตเจือจุน และ นายวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ ผู้ชำนาญการพิเศษฯ ร่วมกันเปิดเผยถึงสาเหตุเบื้องต้น ว่าเกิดขึ้นจากเรือบรรทุกถั่ว (เรือเปล่า) แล่นมาชนฐานรากสะพาน ที่ช่วงกลางของสะพาน ด้วยน้ำหนักเรือที่มากถึง 900 ตัน แม้จะแล่นด้วยความเร็วไม่มาก แต่ก็ทำให้เกิดแรงทางด้านข้างปริมาณมาก จนทำให้ฐานรากของสะพานเคลื่อนที่ในแนวราบ ส่งผลให้ตอม่อของสะพานที่มีความสูงมากเคลื่อนที่ตาม จนทำให้คานคอนกรีตที่วางไว้ที่หัวเสาตอม่อ หลุดออก และร่วงหล่นลงมา นอกจากนี้คานที่ร่วงหล่นยังดึงรั้งให้ตอม่อสะพานที่อยู่ใกล้ฝั่ง หักโค่นตามมาด้วยกันอีก นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกต จากสภาพการวิบัติของเสาตอม่อสะพาน ที่หักโค่นลงมาว่า
1. คอนกรีตที่ใช้ มีกำลังอัดไม่สูงมาก เพราะจากซากที่เหลือ จะเห็นว่ามีการแตกป่นเป็นเศษเล็กๆอยู่มาก
2. จุดที่เสาหักโค่น อยู่ที่บริเวณโคนเสา ซึ่งตรงกับบริเวณที่มีการต่อทาบเหล็กพอดี (weak point) ซึ่งที่บริเวณนี้ ไม่ควรมีการต่อทาบเหล็ก เพราะเป็นจุดที่รับแรงดันสูงสุด
นาย อมร พิมานมาศ เปิดเผยต่อว่าสำหรับการออกแบบและก่อสร้างสะพานที่มีความยาวช่วงตั้งแต่ 10 ม. ขึ้นไปเข้าข่ายเป็นวิศวกรรมควบคุม ต้องใช้วิศวกรที่มีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร ทำการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งตรวจสอบสะพานอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับแนวทางป้องกันเรือชน ตามมาตรฐานสากล สามารถแบ่งได้เป็น 4 วิธี คือ 1. ออกแบบโครงสร้างให้มีความแข็งแรง 2. ออกแบบตัวสลายพลังงานหรืออุปกรณ์ป้องกันการกระแทก 3. ออกแบบตอม่อให้อยู่ใกล้ฝั่ง และ 4.ออกแบบและก่อสร้างเกาะล้อมเสาตอม่อ ในกรณีที่มีพื้นที่เพียงพอ
