'สหกรณ์ฯ รถไฟ' ฉาว! กรรมการกู้ 2 พันล้าน

30 ธ.ค. 2560 | 03:22 น.
ร้องบิ๊กตู่ตรวจสอบ 6 คณะกรรมการกู้เงินมิชอบ 199 สัญญามูลค่า 2,279 ล้าน กระทบต่อสภาพคล่อง ไม่สามารถกู้เงินได้ตามปกติ

นายกิ่งแก้ว โยมเมืองหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายในสหกรณ์สโมสรรถไฟ จำกัด ว่าพบความผิดปกติและความไม่ชอบมาพากลในสหกรณ์ที่ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 6,390 คนซึ่งสมาชิกได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารของคณะกรรมการจนประสบภาวะขาดทุน อีกทั้งสมาชิกที่จะลาออกไม่สามารถเบิกถอนคืน และไม่สามารถกู้ยืมเงินได้

บาร์ไลน์ฐาน โดยคณะกรรมการฯอ้างว่าสหกรณ์ขาดสภาพคล่องเนื่องจากการดำเนินการของคณะกรรมการชุดบริหารช่วงระหว่างปี 2556-2560 ที่มีนายบุญส่ง หงษ์ทอง และนายนรินทร์ โพธิ์ศรีเป็นประธานกรรมการมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันดำรงตำแหน่งและได้มีการอนุมัติจ่ายเงินกู้พิเศษเพื่อเคหะสงเคราะห์ให้กับคณะกรรมการจำนวน 6 คนหลายครั้งหลายคราว ประกอบด้วย 1.นายบุญส่ง หงษ์ทอง 2.นายวีรชัย ศรีสวัสดิ์ 3.นายบัญชา ช่วยประสิทธิ์ 4.นายประพันธ์ อำพันฉาย 5.นายนรินทร์ โพธิ์ศรีและ 6.นายปรีชา ธนะไพรินทร์โดยแบ่งออกเป็น 199 สัญญารวมเป็นเงินจำนวน 2,279 ล้านบาทเพื่อไปจัดซื้อที่ดินในนามของตนเองไปก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรโครงการอาลีบาบาลีฟวิ่งเฮ้าส์ และโครงการบุญสิตา ตั้งอยู่ที่ตำบล/อำเภอแก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรีซึ่งผิดวัตถุประสงค์และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ ด้วยการให้กู้ยืมเงิน ปี2554 ข้อ 13 กำหนดให้กู้เงินได้ไม่เกินคนละ 15 ล้านบาท และต้องมีหลักประกันตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ

“มีการนำเงินไปจัดซื้อที่ดินในนามตนเองเพื่อดำเนินโครงการบ้านจัดสรร เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับอันเป็นการกระทำที่น่าจะมิชอบส่อไปในทางทุจริต ก่อให้เกิความเสียหายต่อสหกรณ์และสมาชิก จึงขอให้ดำเนินการตรวจสอบการกระทำของคณะกรรมการและพวกว่าเป็นการกระทำที่น่าจะทุจริตและมิชอบต่อสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัดหรือไม่ เป็นการกระทำที่มีเจตนาพิเศษเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่”

วิทยุพลังงาน ด้านนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลกล่าวว่า การลงทุนต่างๆ ของสหกรณ์สมาชิกจะต้องมีมติในที่ประชุมใหญ่ทุกครั้ง มีแผนการและโครงการชัดเจน โดยเฉพาะความคุ้มค่าการลงทุนในอนาคตหรือไม่ ปัจจุบันสหกรณ์ดังกล่าวมีปัญหาขาดสภาพคล่องเกิดขึ้นสมาชิกไม่สามารถกู้เงินได้ ประการสำคัญการจัดซื้อที่ดินจะต้องมีค่านายหน้า กรณีนี้ใครได้ประโยชน์จึงน่าจะกระทำกันเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำสลับหน้าที่กันบริหารเฉพาะกลุ่มพวกพ้องของตนเอง จนเกิดความเสียหายต่อสหกรณ์และสมาชิก

“ตามระเบียบของสหกรณ์สมาชิกแต่ละคนจะกู้เงินได้คนละ10-15 ล้านบาท การกู้ต้องมีหลักทรัพย์คํ้าประกัน แต่กรณีนี้กลับพบว่าไม่มีหลักทรัพย์คํ้าประกันมีการจัดทำสัญญาเพื่อก่อให้เกิดเป็นกรณีคดีแพ่ง ทั้งๆ ที่จะเข้าข่ายเป็นคดีอาญา และเข้าข่ายยักยอกทรัพย์หรือเงินสหกรณ์ ดังนั้นกรรมการอีกหลายคนยังเข้าไปมีส่วนร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย รู้เห็นเป็นใจกันให้อนุมัติได้ง่ายๆ ดังนั้นทางกลุ่มธรรมาภิบาลจึงจะเร่งนำเสนอข้อเท็จจริงว่าจะสามารถเอาผิดทางกฎหมายอาญาได้ในประเด็นไหนบ้างเนื่องจากเกิดความเสียหายต่อสหกรณ์และสมาชิกจำนวนมาก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,326 วันที่ 28 - 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-10