GPI ตั้งเป้าดันผลการดำเนินงานปี 61 เติบโตประมาณ 10% พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มั่นใจจะเป็นปีที่ดีของบริษัทฯ หลังจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ในงาน Bangkok International Motor Show ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561 แล้ว 7% และเริ่มรุกขยายธุรกิจการจัดงานมอเตอร์โชว์ในต่างประเทศ ประเดิมร่วมจัดงาน Myanmar International Motor Show ที่ประเทศเมียนมา และเตรียมลงทุนแท่นพิมพ์ใหม่เพื่อขยายธุรกิจรับงานพิมพ์ได้หลากหลายขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้จากการเริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจจัดงานแสดงยานยนต์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เป็นผู้ร่วมจัดงาน Myanmar International Motor Show ในประเทศเมียนมา เป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี 2561-2563) นอกจากนี้ บริษัทฯ จะอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจดังกล่าวและความสัมพันธ์ที่ดีกับค่ายผู้ผลิตรถแบรนด์ต่างๆ เพื่อขยายธุรกิจการจัดงานมอเตอร์โชว์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GPI กล่าวว่า บริษัทฯ ยังมีแผนงานเพิ่มศักยภาพของธุรกิจรับจ้างพิมพ์ โดยเตรียมลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโนลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ จากการขยายการรับงานพิมพ์บนวัสดุต่างๆ เช่น การรับจ้างพิมพ์บนกล่องบรรจุภัณฑ์, การรับจ้างพิมพ์บนกระดาษห่อสินค้าและป้ายโฆษณา ฯลฯ จากเดิมที่มีรายได้จากการรับจ้างพิมพ์นิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก และอยู่ระหว่างการวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง รวมถึงการวางแผนเพื่อขยายธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้ารูปแบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจากงานมอเตอร์โชว์ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ จากปัจจุบันที่มีการจัดงานหลักในแต่ละปี อาทิ งาน Bangkok International Motor Show, งาน Bangkok Used Car Show หรืองานแสดงและจำหน่ายรถยนต์มือสอง, งาน Air Race 1 ซึ่งเป็นการจัดแข่งขันเครื่องบินในระดับภูมิภาคเอเชียให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นต้น
“ในปี 61 น่าจะเป็นปีที่ดีของบริษัทฯ เนื่องจากเรามีแผนงานเพิ่มรายได้จากธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้ายานยนต์ที่เป็นรายได้หลักของบริษัทฯ อีกทั้งการจัดงาน Bangkok International Motor Show ก็น่าจะได้รับผลดีจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตรถพร้อมใช้งบจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายภายในงาน และเป็นปัจจัยบวกต่อปริมาณผู้เข้าชมงานและความต้องการซื้อรถที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น” ดร.ปราจิน กล่าว