สนช. อุ้ม 7 ป.ป.ช. อยู่ต่อจนครบวาระ   

สนช. มีมติ 157 ต่อ 26 เห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ไฟเขียว ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันอยู่ต่อจนครบวาระ

-25 ธ.ค.60- หลังจากที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มีมติวาระ 2 และ 3 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ...ตามคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิก สนช.เป็นประธานพิจารณาแล้วเสร็จ  โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)อยู่ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 9 ปี ด้วยจำนวนเสียงเห็นด้วย 157 เสียง ไม่เห็นด้วย 26 เสียง และงดออกเสียง 29 เสียง

โดยในส่วนของบทเฉพาะกาลมาตรา 178 กำหนดให้ ประธานกรรมการป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนดในพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 19 เว้นแต่กรณีตามมาตรา 19 (3) ในส่วนที่เกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตามมาตรา 9 และลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 (1) และ (18) มิให้นำมาใช้บังคับ

ส่งผลให้ ประธานและกรรมการป.ป.ช.ทั้ง  7 รายที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.วัชรวาท ประสารราชกิจ 2.นายปรีชา เลิศกมลมาศ 3.พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง 4.นายณรงค์ รัฐอมฤต 5.นางสาวสุภา ปิยะจิตติ 6.นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และ7.พล.อ.บุญยวัจน์ เครือหงส์ ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามกฎหมาย

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการส่งร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบแล้วไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.และ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อพิจารณาว่า การแก้ไขเนื้อหาของร่างกฎหมายของสนช.นั้นขัดต่อเจตนารมณ์หรือไม่ ก่อนจะตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ระหว่าง ป.ป.ช. กรธ.และสนช.

ทั้งนี้ หากทั้ง ป.ป.ช. และกรธ.ไม่เสนอให้ประธาน สนช.ตั้ง กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย จะมีผลให้ร่างพ.ร.ป.ป.ป.ช.ใช้เป็นกฎหมายต่อไป