อีซูซุ ชวนท้าลมหนาว ดีแมคซ์ 1.9 บลูเพาเวอร์ 4 ประตู

ฉลอง 60 ปีการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่สำหรับค่ายตรีเพชรอีซูซุเซลส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวปิกอัพ“ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ซึ่งปิกอัพรุ่นใหม่ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จ นับตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกและได้รับการตอบรับจนสามารถทำให้ยอดขายของอีซูซุในปัจจุบันก้าวมาเป็นผู้นำตลาด และคาดว่าจะกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของตลาดรถปิกอัพได้ภายในปีนี้

ล่าสุดทางอีซูซุได้ตอกยํ้าถึงความสำเร็จของรถรุ่นใหม่ ด้วยการจัดทริปท้าลมหนาวให้กับสื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะพร้อมทั้งท่องเที่ยวไปกับรถรุ่นใหม่นี้ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ลิตร โดยใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ตาก-สุโขทัย ระยะทางทั้งสิ้นกว่า 500 กิโลเมตร

ก่อนล้อจะหมุนขอสำรวจรูปร่างหน้าตาของรถรุ่นใหม่กันสักนิด โดย “ฐานยานยนต์” ได้มีโอกาสนั่งไปในรุ่น อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ 4 ประตู Z-Presige A/T สนนราคา 9.9 แสนบาท ซึ่งรุ่นใหม่นี้การปรับเปลี่ยนเริ่มตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมและชุดไฟหน้ามีการดีไซน์ใหม่แบบ Bi-LED ที่สามารถปรับระดับสูงตํ่าได้ 4 ระดับ และยังมาพร้อม Multifunctional Daylight แบบบิลต์-อิน ส่องสว่างได้ทั้งเวลากลางวันและไฟหรี่ และที่ใหม่อีกจุดหนึ่งคือกรอบไฟตัดหมอกโครเมี่ยม

มุมมองด้านข้างรถ จะเห็นบันไดข้างที่มีการออกแบบใหม่ เช่นเดียวกับ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด18 นิ้ว ที่ให้อารมณ์สปอร์ต ส่วนบั้นท้ายของรถรุ่นใหม่มีไฟท้ายแอลอีดีที่โดดเด่นเป็นสง่า และที่ทำให้รถดูบึกบึน แข็งแรง ก็คือการบิลต์-อินสปอยเลอร์

เมื่อเข้ามานั่งภายในห้องโดยสารของอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ 4 ประตู Z-Presige A/T จะรู้สึกได้ถึงความหรูหรา ตัวเบาะคู่หน้านั่งสบายกว้างขวาง เช่นเดียวกับด้านหลัง โดยเบาะเป็นกึ่งหนังแท้สีนํ้าตาล และที่พิเศษคือทั้งด้านหน้า -ด้านหลังจะมี Soft Touch บริเวณที่พักแขนข้างประตู และจุดเด่นอีกประการคือเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 ทำให้รวมๆของห้องโดยสารดูดี มีระดับเหมือนนั่งอยู่ในรถหรูราคาแพง

จุดดึงดูดอีกอย่างคือแผงคอนโซลด้านหน้า ที่ตกแต่งแบบเปียโน แบล็ก สไตล์ ตัวแผงหน้าปัดซูเปอร์ วิชัน ดูง่าย สบายตา และยังมี Soft Touch บริเวณคิ้วคอนโซลเหนือหน้าปัด ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น พร้อมCruise Control และยังมีระบบ Push Start พร้อม Isuzu Genius Entry

ส่วนความบันเทิง และเทคโนโลยีต่างๆก็จัดเต็มทั้ง เครื่องเล่น DVD ขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 8 ตัว และ ยังมี Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ง่ายต่อการเดินทาง ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว สามารถใช้งานง่าย ตอบสนองเร็ว และยังมาพร้อมระบบ Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ต้องมีคือ “อีซูซุอินไซท์” ก็มีการพัฒนาไปเป็นแอพพลิเคชัน ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลรายงานผลการขับขี่ผ่านสมาร์ทโฟนจากระบบ Isuzu iConnect ผ่านบลูทูธที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นไอโอเอสหรือ แอนดรอยด์ ซึ่งผู้ขับขี่ที่อยากจะรู้ว่าตนเองมีการขับขี่แบบไหนใช้นํ้ามันไปเท่าไร ก็สามารถใช้ประโยชน์จากอีซูซุอินไซท์ได้

เรียกว่าจัดเต็มสำหรับรถในรุ่นใหม่นี้ ทั้งการดีไซน์ และการใส่เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งหลังจาก“ฐานยานยนต์” ได้สำรวจรูปร่างหน้าตาและบอกเล่าถึงคุณสมบัติใหม่ๆกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาออกเดินทาง โดยมีจุดหมายปลายทางคือจังหวัดตาก

การเดินทางเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางสภาพการจราจรที่หนาแน่น ทั้งในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องผ่านไม่ว่าจะเป็นอยุธยา สิงห์บุรี นครสวรรค์ ทำให้การขับขี่ต้องมีการระมัดระวัง ใช้ความเร็วกันไม่มากเท่าไร แต่หลังจากเข้าสู่กำแพงเพชรมุ่งหน้าตาก แต่ละคันมีการใช้ความเร็ว เรียกแรงม้าออกมาใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น อาจจะมีเสียงลมลอดเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง แต่สิ่งที่ชื่นชอบคือ ห้องโดยสารด้านหลัง มีการติดตั้งช่องเสียบยูเอสบี ที่สามารถชาร์จไฟได้ และด้านล่างของคอนโซลยังมีที่วางแก้วได้อีก 2 ใบ และยังมีที่พักแขนตรงกลางไว้อำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารแถวหลัง เรียกว่าเอาใจทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ส่วนใครที่กำลังมองหารถปิกอัพรุ่นใหม่ก็ลองแวะไปสัมผัสสมรรถนะของอีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่ กันได้ ซึ่งในรุ่น 1.9บลูเพาเวอร์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตูมีราคาเริ่มต้น 8.03 แสนบาท หรือลูกค้าที่ต้องการความแรง เน้นสมรรถนะถึงเครื่องถึงใจ ก็มีในรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ราคาเริ่มต้น 9.71 แสน-1.016 ล้านบาท ก็เอาเป็นว่าใครใคร่ชอบแบบไหน สะดวกแบบไหน ก็เลือกตามใจชอบ หรือไปทดลองขับได้ที่โชว์รูมอีซูซุทุกสาขาทั่วประเทศกันได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560