เปิดวิสัยทัศน์5ปี ‘สุภามาส’ทายาทช.การช่าง

27 ธ.ค. 2560 | 12:16 น.
เปิดวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ 5 ปี ช.การช่าง คาดการณ์รายได้ปีนี้ยังเป็นไปตามเป้า 3.5 หมื่นล้านบาทฉลองครบรอบ 45 ปี เผยรายได้ 3 ไตรมาสเป็นตามเป้า มีอัตรากำไรขั้นต้น 7.85% อัตรากำไรสุทธิ 6.75% พร้อมเข้าประมูลทุกโครงการตอกยํ้าความเป็นผู้นำ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับภูมิภาค เผยมีกระแสเงินสดพร้อมลงทุนแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท

นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า ในภาพรวมทางธุรกิจของช.การช่างช่วง ไตรมาสที่ 3 ปีนี้มีผลประกอบการเป็นไปตามแผนน่าพอใจมีรายได้รวมราว 2.9 หมื่นล้านบาท ส่วนทั้งปีคาดว่าน่าจะทะลุเป้าเดิมที่กำหนดไว้จำนวน 3.9 หมื่นล้านบาท

โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านสำหรับโครง การที่ภาครัฐพร้อมที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นในปี 2561 ทั้งในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรเพื่อรอง รับกับงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมและการก่อสร้างเพื่อลดต้นทุนและระยะเวลาในการก่อสร้าง การเตรียมความพร้อมในเรื่องการเงิน ลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติมในอนาคต รวมทั้ง ผลจากการจัดโครงสร้างการ ลงทุนของบริษัท ทำให้บริษัทในเครือมีความแข็งแกร่งทั้งในด้านการเงินและโอกาสในการเติบโต อันเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขันสู่ระดับโลก

[caption id="attachment_244420" align="aligncenter" width="429"] สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK[/caption]

++แบ็กล็อก 7.8 หมื่นล้าน
ปัจจุบัน ช.การช่างมีงานในมือจำนวน 27 โครงการคิดเป็นมูลค่ากว่า 7.8 หมื่นล้านบาท ให้สามารถรับรู้รายได้อีก 2 ปีโดยปี 2560 นี้ได้ลงนามในสัญญาโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างสถานีเพิ่มแรงดันเป็นสถานีจ่ายนํ้า กับบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) มูลค่า 303 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี สัญญาที่ 1 มูลค่า 11,570 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 2 มูลค่า 12,060 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 5 มูลค่า 2,709 ล้านบาท และ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา สัญญาที่ 4 มูลค่า 1,852 ล้านบาท โครงการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ 2 สัญญา มูลค่าประมาณ 19,463 ล้านบาท และโครงการทางเชื่อมต่อทางพิเศษสายศรีรัช วงแหวนรอบนอก กับศรีรัชด้านทิศเหนือ มูลค่า 275 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในปี 2560 ทั้งหมด 48,412 ล้านบาท

++กำทุนพร้อมลุย8,000ล้าน
“จากการที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างการเงินภายในองค์กรต่อเนื่องมากว่า 5 ปี ตอนนี้บริษัทในเครือมีความแข็งแกร่งมีศักยภาพด้านการเงินสามารถเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินสนับสนุนจากบริษัทแม่ ขณะเดียวกัน ช.การช่าง ก็มีความพร้อมอย่างมากโดยเฉพาะสัดส่วนหนี้ที่ลดลงอย่างมากจากการปรับโครงสร้างต่างๆ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟฟ้าและทางด่วน เพราะบริษัทมีความชำนาญในงานใต้ดินและงานยกระดับ” นางสาวสุภามาสกล่าว

สำหรับปี 2561 นั้นขณะนี้มีกระแสเงินสดพร้อมลงทุนแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นรับงานระบบรางและงานด้านพลังงาน และมั่นใจว่ารัฐบาลยังน่าจะเร่งผลักดันโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานออกมาอีกหลายโครงการนั่นคือยังคงจะเป็นปี ทองของอุตสาหกรรมก่อสร้างได้อีกปีหนึ่ง รอโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ที่จะทยอยเปิดประมูลและรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 อีกหลายเส้นทาง

++เป้ารายได้ไม่ต่ำ3.5หมื่นล้าน
โดยยังคงตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีรายได้จากการก่อสร้างไม่ตํ่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีโครงการต่างๆ จะทยอยป้อนออกมาอีกมีมูลค่าราว 4-5 แสนล้านบาท น่าจะมีปริมาณงานในมือ (แบ็กล็อก) เพิ่มเข้ามาอีกหลายโครงการ โดยมีปัจจัยความเสี่ยงหลักๆ คือการประมูลโครง การโดยยังมั่นใจว่าปีหน้ารัฐบาลจะเร่งรัดผลักดันโครงการต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นโครง การที่มีความสำคัญและได้จัดอยู่ในแผนดำเนินการเอาไว้แล้ว ดังนั้นธุรกิจก่อสร้างจึงมีโอกาสได้เข้าไปประมูลงานกันมากขึ้น

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6 ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าในอีก 5 ปีต่อไปนี้ประเทศไทยยังจะมีการผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ด้านโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐบาลอีกหลายโครงการ อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง ทางด่วน โดยเฉพาะโครงการตามแนวพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จึงมั่นใจว่าจะมีการลงทุนเกิดขึ้นในระยะ 5 ปีนี้ อีกทั้งช.การช่างยังรุกตลาดในกลุ่มภูมิภาคของไทยมากขึ้น อาทิ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และเมียนมาที่จะติดตามอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

โดยในปี 2561 คาดการณ์ว่าจะมีงานที่ผลักดันโดยภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเข้าประกวดราคาในทุกโครงการที่รัฐบาลเปิดประกวดราคา อาทิเช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน (ส่วนต่อขยาย) (ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4) มูลค่า 21,197 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสี ส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน) มูลค่า 8.5 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงสมุทรปราการ-บางปู และคูคต-ลำลูกกา) โครง การทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 ช่วงถนนเกษตรฯ-นวมินทร์ โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า 9 หมื่นล้านบาท ตลอดจนโครงการประมูลโรงไฟฟ้าพลังนํ้าใหม่ๆ ในต่างประเทศ เช่น ที่ สปป. ลาว เป็นต้น โดยตั้งเป้าว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25%

“ช.การช่างในปีนี้ เป็นปีที่เราครบรอบ 45 ปี เราได้มีการกำหนดทิศทางการเติบโตของช.การช่างในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยโครงการก่อสร้างในประเทศก็ยังเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยมั่นใจว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีการเติบโตอย่างมากจากโครง การภาครัฐซึ่งเป็นงานที่ทุกๆ รัฐบาลให้ความสำคัญ ส่วนงานในต่างประเทศนั้น เรามุ่งเน้นประเทศใน AEC โดยเฉพาะลาวและเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศที่เราให้ความสำคัญ โดยเน้นที่โครงการด้านพลังงานเป็นหลัก นอกจากนี้เรามีการเตรียมความ พร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี วิศวกรรมและการก่อสร้าง การพัฒนาบุคลากร การเงิน และการเตรียมพร้อมระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อลด ต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อที่จะรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นางสาวสุภามาสกล่าวสรุป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9