‘แบงก์ชาติ’ผนึก‘ปปง.’ จับตาบิตคอยน์ฟอกเงิน

23 ธ.ค. 2560 | 07:14 น.
ธปท.ผนึก ก.ล.ต.-ปปง. จับตาบิตคอยน์ ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำธุรกรรมฟอกเงิน เตือนประชาชนถูกชักชวนเล่นแชร์ลูกโซ่ ระบุตอนนี้ไม่มีเกณฑ์กำกับ เหตุปริมาณธุรกรรมยังน้อย ยันแนวคิดควบรวมรอให้แบงก์สมัครใจ ยันไม่ได้บังคับ

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ประเด็นบิตคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิตอล ในส่วนของการกำกับดูแลนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน แต่ธปท.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นผลกระทบเชิงระบบ เพราะการใช้สกุลเงินดิจิตอลยังอยู่ในวงจำกัด แต่สิ่งที่ต้องสนใจระมัดระวังในมิติแรก คือ ป้องกันไม่ให้ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย และเตือนให้ประชาชนเข้าใจความเสี่ยง โดยเฉพาะมักจะมีคนชักชวนการลงทุนในลักษณะที่เป็นแชร์ลูกโซ่

[caption id="attachment_152599" align="aligncenter" width="380"] วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท. วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท.[/caption]

“ก่อนที่จะออกเกณฑ์อะไรต้องดูว่าเป็นธุรกรรมที่มีจำนวนมาก เวลาที่เราจะกำกับตราสารทางการเงิน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เราก็ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งปปง. และก.ล.ต.ว่าตราสารเหล่านั้นมีความเสี่ยงสำคัญอะไร จะต้องให้เข้าใจว่าความเสี่ยงคืออะไร ธปท.ก็เตือนเป็นประจำ และต้องช่วยกันดูแล และอยากจะให้ประชาชนเข้าใจว่าเงินบิตคอยน์ ไม่ใช่เป็นสกุลเงินที่ชำระเงินได้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหลักเบื้องต้นของสกุลเงินที่สามารถชำระเงินได้นั้น ราคาจะต้องมีเสถียรภาพเป็น Main of Payment”

ส่วนแนวคิดที่กระทรวงการคลังจะสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ควบรวมเพื่อให้มีความแข็งแกร่งขึ้นและรองรับการขยายสินเชื่อของบริษัทขนาดใหญ่นั้นไม่ได้เป็นมาตรการบังคับ จึงขึ้นอยู่กับธนาคารจะสนใจหรือไม่ แต่หากธนาคารมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความเสี่ยงเชิงระบบก็ต้องมีการรักษาตามหลักเกณฑ์ D-SIB ซึ่งปัจจุบันธนาคารที่อยู่ในหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9