10 ล้านไม่พอซื้อ สุดหรู‘ซามูไร’-ตัวท็อป‘เยอรมนี’

23 ธ.ค. 2560 | 06:15 น.
ในเมืองไทยแบรนด์ “เลกซัส” อาจจะดูไม่เปรี้ยงปร้างเมื่อเทียบกับพวกรถหรูจากเยอรมนี หรือยอดขายต่อปีไม่ถึง 1,000 คัน ยังห่างไกลกับเจ้าตลาดอย่าง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่ทะลุ 10,000 คันไปแล้ว

“เลกซัส” ในเครือโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยอมรับว่าด้วยการเป็นรถยนต์นำเข้าทั้งคัน ทำให้ราคาขายสูงกว่าคู่แข่ง และการที่ไม่มีแผนขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ ยอดขายก็คงทรงๆอยู่เท่านี้

mp33-3324-4a ล่าสุดเปิดตัว“แอลเอส โมเดลเชนจ์”รถยนต์รุ่นธงที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 5 ชูความโดดเด่นในสไตล์ของตนเองผ่านการออกแบบ เทคโนโลยียานยนต์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม บนมาตรฐานฝีมือการผลิตและความพิถีพิถันตามแบบฉบับญี่ปุ่น (Takumi Craftsmanship)

สำหรับเลกซัส แอลเอส โฉมใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา(ตลาดใหญ่ของเลกซัส)เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่การทำตลาดในไทยมาครบทุกขุมพลังทั้ง “ไฮบริด” LS500h เครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึง LS350 บล็อก วี6 ขนาด 3.5 ลิตร และ LS500 ที่ใช้เครื่องยนต์ใหม่ วี6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ 421 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

mp33-3324-5a ออพชันใหม่ที่น่าสนใจ ไล่ตั้งแต่ ชุดไฟหน้าและไฟส่องสว่าง Ultra-small 3-eye Bi-Beam พร้อมระบบ Two-Stage Adaptive High Beam System (AHS) ระบบเปิด-ปิดไฟสูง-ไฟตํ่าอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนสายตารถที่วิ่งสวนมา ด้วยหลอด LED ไฟสูง 8 ดวง และไฟตํ่า 16 ดวงในแต่ละข้าง

เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับ 22 ทิศทาง และพนักวางขาไฟฟ้า เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าใช้มอเตอร์ผสานกับระบบนิวเมติก โดยระบบสามารถสูบลมเข้าออกถุงลมเพื่อปรับองศาเก้าอี้ได้ในทุกมุม เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด เบาะนั่งหลังด้านซ้ายสามารถปรับพื้นที่วางขาสูงสุดได้ถึง 1,020

mp33-3324-1a เครื่องเสียง Mark Levinson QLI ระบบเสียง 3 มิติ 16 ช่องทาง พร้อมลำโพง 23 และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง QLI (Quantum Logic Immersion) ส่วนความบันเทิงของเบาะนั่งตอนหลัง ประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ ปรับตำแหน่งอัตโนมัติให้สอดคล้องกับตำแหน่งของเบาะนั่งเพื่อให้เห็นหน้าจอชัดเจน พร้อมด้วยเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ช่องใส่ SD card และสายต่อ HDMI เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น

ตลอดจนระบบนวดผ่อนคลายพร้อมฟังก์ชันกดจุดแบบร้อน (เบาะที่นั่งด้านหลังซ้ายและขวา) ด้วยระบบถุงลมที่ติดตั้งภายในเบาะที่นั่งและพนักพิงจะพองลมเพื่อนวดหลังและต้นขาของผู้นั่ง นอกจากนั้นยังสามารถทำความร้อนเพื่อเพิ่มความสบายตัวผ่อนคลาย โดยสามารถเลือกโปรแกรมสำหรับการผ่อนคลายทั่วร่าง (Full Body Refresh, Full Body Stretch และ Full Body Simple) หรือผ่อนคลายเฉพาะส่วน (ร่างกายส่วนบน ร่างกายส่วนล่าง ไหล่และสะโพก) รวม 7 โปรแกรม

LS500hไฮบริด รุ่น Executive Pleat ราคา 15,830,000 บาท รุ่น Executive 14,500,000 บาท ส่วน LS500 รุ่น Executive 13,080,000 บาท และ LS350 รุ่น Luxury 11,530,000 บาท

ฝั่งเจ้าพ่อรถหรูจากเยอรมนี “เมอร์เซเดส-เบนซ์” นอกจากจะมีซับแบรนด์พันธุ์แรงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” แล้วยังเพิ่มความหรูอีกระดับด้วยแบรนด์ “เมอร์เซเดส-มัยบัค” ที่เหนือกว่า “เอส-คลาส” รุ่นปกติ

mp33-3324-3a โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย นำเข้า “เมอร์เซเดส-มัยบัค เอส-คลาส” รุ่นใหม่ ที่เป็นการเฟซลิฟต์ตามอายุโมเดลของ “เอส-คลาส” รุ่นปกติ ในชื่อรุ่น Mercedes-Maybach S 560 Premium วางเครื่องยนต์เบนซิน วี8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.9 วินาที

ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมฟังก์ชัน Active Light System ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติก โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ forged ขนาด 20 นิ้ว หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ระบบช่วงล่างแบบ MAGIC BODY CONTROL

ตัวถังของ “เมอร์เซเดส-มัยบัค เอส-คลาส” ยาว 5,462 มม. หรือมากกว่าเอส-คลาส ที่ยาว 5,271 มม. แสดงถึงพื้นที่ใช้สอยและการใส่ออพชันอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น

mp33-3324-2a โดยคอนโซลหน้า และส่วนกลางของแผงประตูหุ้มหนัง nappa นาฬิกา IWC แบบอนาล็อก พวงมาลัยนิรภัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนังสลับลายไม้ พร้อมสัญลักษณ์ MAYBACH และปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ยังมีฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบ Apple Carplay? & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester? high-end 3D surround sound system
เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ First Class และมีโต๊ะทำงานแบบพับได้ เพิ่มความสบายตลอดการเดินทางด้วยฟังก์ชันนวด ENERGIZING 6 รูปแบบ และมีตู้เย็นภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลัง

mp33-3324-6a ด้านระบบความปลอดภัยขั้นสูง ประกอบด้วย ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE? PLUS ด้วยการทำงานของเรดาร์ที่หากตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกะพริบฉุกเฉินจะกะพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้น ระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อกล้อทั้ง 4 ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น

สำหรับ Mercedes- Maybach S 560 Premium ราคา 17,440,000 บาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9