ยูโอบีชูธีมลงทุนคล่องโยกไว ปรับพอร์ตไม่ตกกระแส เปิดตัว ‘ซูเปอร์เมกะเทรนด์’

23 ธ.ค. 2560 | 00:32 น.
บลจ.ยูโอบีฯ เปิดแผนปี 2561 ปั๊มเอยูเอ็มโต 27-30% ส่งกองทุนใหม่ลงทุนซูเปอร์เมกะเทรนด์โลก ปรับพอร์ตทันกระแส พร้อมเสนอทางเลือกใหม่หลัง “อินคัม ฟันด์” สุดฮิต ส่วนหุ้นไทยชี้เป้าหมาย 1,800 จุด

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เติบโตประมาณ 27-30% จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดยจะเติบโตจาก 3 ธุรกิจทั้งกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

[caption id="attachment_243592" align="aligncenter" width="335"] วนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด วนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]

สำหรับแผนออกกองทุนรวมในปี 2561 ธีมการลงทุนจะมีความคล่องตัวมากขึ้น ไม่เน้นธีมการลงทุนหรือกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง แต่จะปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ตามสภาวะตลาด แตกต่างจากกองทุนเดิมที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะเน้นธีมการลงทุนเดียวหรือกลยุทธ์เดียว เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนกองทุนนั้นๆก็ไม่เหมาะกับสภาวะนั้น กองทุนจึงไม่ได้รับความสนใจ แต่กองทุนใหม่เพียงกองทุนเดียวสามารถลงทุนได้ในระยะยาวไม่ตกเทรนด์ รวมทั้งลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการกองทุน

“กองทุนที่จะออกใหม่ สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้ทุกสภาวะตลาด ปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ในกองทุนเดียว เหมือนกองทุนอินคัม ฟันด์ของพิมโก้ ที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกได้อย่างหลากหลายในกองเดียว จึงสร้างผลตอบแทนที่จูงใจและดึงนักลงทุนไทยแห่เข้าลงทุนจำนวนมาก” นายวนา กล่าว

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารองค์กร บลจ.ยูโอบี จก. เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในซูเปอร์เมกะเทรนด์ของโลก เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โรบอต ออโตโมทีฟ เฮลธ์แคร์ เทคโนโลยีด้านการขุดเจาะ เป็นต้น โดยกองทุนจะกระจายลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมและปรับเปลี่ยนการลงทุนตามสภาวะตลาด ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศหลายกองทุน (fund of fund) ที่เป็นกองทุนชั้นนำในแต่ละอุตสาหกรรม

นอกจากนี้จะออกกองทุนใหม่เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกเป็นทางเลือกหลังจากกองทุนต่างประเทศ PIMCO GIS Income เน้นสร้างกระแสรายได้สมํ่าเสมอที่ดึงดูดนักลงทุนไทยเข้าลงทุนกว่าแสนล้านบาท โดยกองทุนใหม่มีนโยบายลงทุนแตกต่างจากกองทุนดังกล่าว แต่จะลงทุนได้คล่องตัวโดยไม่อิงดัชนีเปรียบเทียบเช่นกัน

บาร์ไลน์ฐาน บริษัทยังมีแผนออกกองทุนที่ลงทุนในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อินฟราสตรักเจอร์ โดยมีกลยุทธ์ลงทุนแบบเฮดจ์ฟันด์และแอบโซลูท รีเทิร์นเป็นตัวเสริม คาดหวังผลตอบแทนประมาณ 10-12% บนความผันผวนที่ตํ่ากว่าหุ้นอยู่ที่ประมาณ 8-10% ซึ่งเป็นการต่อยอดจากกองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม โฟกัส ฟันด์ (UIF) ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ผ่านกองทุนหลัก UNITED GLOBAL DIVERSIFIED PORTFOLIOS - United Income Focus Trust -Class USD Dist ซึ่งให้ผลตอบแทนประมาณ 5-6% ต่อปี

นายวจนะ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 4% ยังไม่รวมการเลือกตั้ง แต่จะมาจากการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคที่เพิ่มขึ้นการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่น่าจะเริ่มมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบขณะที่การเลือกตั้งหากเกิดขึ้นในช่วงปลายปีคาดว่าจะส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้นคึกคัก

“บลจ.ยูโอบีฯ มองเป้าหมายดัชนีหุ้นสิ้นปีหน้าไว้ที่ 1,800 จุด คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต 10% ใกล้เคียงเพื่อนบ้าน โดยพี/อีประมาณ 15-16 เท่า ยังถูกและแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยมองกรอบล่างไว้ที่ 1,650 จุด เนื่องจากต่างชาติขายหุ้นไทยไปมากแล้วทำให้ยอดถือครองหุ้นของต่างชาติปัจจุบันประมาณ 30%ตํ่าสุดในรอบ 7-8 ปี จากอดีตอยู่ที่ 35%” นายวจนะ กล่าว

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยมองว่าอาจถูกกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของต่างประเทศทำให้ไทยต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตามในครึ่งหลังปี 2561 ในอัตรา0.25%ทั้งที่ไทยยังไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังตํ่าทำให้กดดันอัตราผลตอบแทนจากตราสารหนี้เล็กน้อย

ส่วนธีมหุ้นที่น่าสนใจในปี 2561 ยังคงเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐ การบริโภครวมถึงการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องรวมถึง หุ้นขนาดกลางและเล็กที่ถูกขายทำกำไรออกมามาก อาจเป็นจังหวะในการทยอยเข้าลงทุนเนื่องจากมองแนวโน้มในปีหน้ายังให้ผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องไปถึงปี 2562

ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศ แนะนำหุ้นขนาดกลางและเล็กในตลาดหุ้นยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและได้ประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ของประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9