Play
เอกชนเฮ!ไทยหลุด PWL รัฐหวังผลได้ต่อ‘จีเอสพี’
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
เอกชนมองผลบวก ไทยหลุด PWL สหรัฐฯรอบ 10 ปี ชี้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ขณะพาณิชย์ชี้มีผลต่อการพิจารณาให้สิทธิจีเอสพีรอบใหม่
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” กรณีสหรัฐอเมริกาได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหาของไทยภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List:WL) ในรอบ 10 ปีนั้น โดยภาพรวมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะเจ้าของสินค้าลิขสิทธิ์ หลังไทยได้รับการปรับสถานะเทียบเท่ากับสวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดา ที่ได้รับการแก้ไขแล้วก่อนหน้านี้
[caption id="attachment_190308" align="aligncenter" width="503"]
กลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย[/caption]
สอดคล้องกับนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ที่กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเหมือนเป็นการปลดล็อกประเทศ จะทำให้สหรัฐฯ และยุโรป มองภาพลักษณ์ไทยดีขึ้น ซึ่งจาก PWL มาเป็น WL และอนาคตจะหลุด WLหรือไม่ก็ต้องติดตาม แต่จะช่วยส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมภายในประเทศที่ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตัวขับเคลื่อนซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล น่าจะมีผลทำให้ต่างชาติมีความมั่นใจและเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับสถานะในครั้งนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สหรัฐฯ พิจารณาในการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ซึ่งสหรัฐฯให้กับประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงไทยด้วย โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ไทยมีมูลค่าการส่งออกของรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิจีเอสพี ไปยังสหรัฐฯ 4,245 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิจีเอสพี 3,098 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิถึง72% สินค้าที่มีการใช้สิทธิจีเอสพีสูง เช่น ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่ม ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และส่วนประกอบยานยนต์ เป็นต้น
[caption id="attachment_230857" align="aligncenter" width="503"]
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์[/caption]
ขณะเดียวกันช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีโครงการต่างชาติที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล มูลค่ารวม 1.16 แสนล้านบาท ซึ่งมีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต 3 อันดับแรกประกอบด้วย ยานยนต์ มูลค่า 3.24 หมื่นล้านบาท ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ มูลค่า 2.69 หมื่นล้านบาท และอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 2.67 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” กรณีสหรัฐอเมริกาได้ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหาของไทยภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List:WL) ในรอบ 10 ปีนั้น โดยภาพรวมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะเจ้าของสินค้าลิขสิทธิ์ หลังไทยได้รับการปรับสถานะเทียบเท่ากับสวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดา ที่ได้รับการแก้ไขแล้วก่อนหน้านี้
[caption id="attachment_190308" align="aligncenter" width="503"]
สอดคล้องกับนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ที่กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเหมือนเป็นการปลดล็อกประเทศ จะทำให้สหรัฐฯ และยุโรป มองภาพลักษณ์ไทยดีขึ้น ซึ่งจาก PWL มาเป็น WL และอนาคตจะหลุด WLหรือไม่ก็ต้องติดตาม แต่จะช่วยส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมภายในประเทศที่ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตัวขับเคลื่อนซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล น่าจะมีผลทำให้ต่างชาติมีความมั่นใจและเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับสถานะในครั้งนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สหรัฐฯ พิจารณาในการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ซึ่งสหรัฐฯให้กับประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงไทยด้วย โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ไทยมีมูลค่าการส่งออกของรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิจีเอสพี ไปยังสหรัฐฯ 4,245 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิจีเอสพี 3,098 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิถึง72% สินค้าที่มีการใช้สิทธิจีเอสพีสูง เช่น ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่ม ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และส่วนประกอบยานยนต์ เป็นต้น
[caption id="attachment_230857" align="aligncenter" width="503"]
ขณะเดียวกันช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีโครงการต่างชาติที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล มูลค่ารวม 1.16 แสนล้านบาท ซึ่งมีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต 3 อันดับแรกประกอบด้วย ยานยนต์ มูลค่า 3.24 หมื่นล้านบาท ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ มูลค่า 2.69 หมื่นล้านบาท และอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 2.67 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
