เนสท์เล่ยึด 3 เสาหลักสร้างบุคลากร

23 ธ.ค. 2560 | 00:12 น.
มีคำถามว่า ทำไมองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่อย่างเนสท์เล่ ที่มีพนักงานกว่า 3,200 คน จึงเป็นองค์กรที่น่าทำงาน มีอัตราการลาออกที่ตํ่า จากบุคลิกของคนเนสท์เล่ คือ

- Empowerment การเป็นบุคลากรที่มีความรับผิดชอบ และมีความกระตือรือร้นต่อการค้นหากระบวนการทำงานที่ดียิ่ง
- Leadership การเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ที่สนับสนุน ให้คำแนะนำ และยินดี ในความสำเร็จของผู้ร่วมงาน
- Teamwork เป็นทีมงานที่ติดต่อสื่อสารกันอย่างเปิดเผย และทำงานประสานกันโดยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Passion For Great Performance การเป็นบุคลากรที่มีความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายที่ท้าทายและสามารถสร้างผลงานที่ดีเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง

ลักษณะสำคัญเหล่านี้ ทำให้เนสท์เล่เป็นองค์กรที่อบอุ่น และมีความเป็นมิตร และทำให้คนรุ่นใหม่สนใจที่จะเข้าร่วมงานด้วย

[caption id="attachment_243483" align="aligncenter" width="335"] MP26-3324-2B ร็อคเซน่า อลิซ คอร์ฮา[/caption]

แต่การที่จะ Grooming บุคลากรของเนสท์เล่ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันองค์กรให้เติบโต “ร็อคเซน่า อลิซ คอร์ฮา” ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล เนสท์เล่ อินโดไชน่า บอกว่า ทั้งหมดมาจากเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ (Nestlé Purpose and Value) ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) ให้กับพนักงาน ผ่าน 3 เสาหลัก คือ 1. For Individual and Family ทำเพื่อตัวบุคคล และครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทำผ่านผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ หรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน 2. For Community สังคมโดยรอบ เช่น ชุมชนรอบโรงงาน ที่เนสท์เล่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และ 3. For Planet สิ่งที่ทำต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีกิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย

การยึดมั่นในค่านิยมทั้ง 3 ประการ เริ่มตั้งแต่การปูพื้นฐานให้กับพนักงานใหม่ 2 วันเต็ม เป็นการทำให้พวกเขาได้ทำความรู้จักกับระบบการทำงานของเนสท์เล่ รับรู้นโยบาย และทิศทาง รวมทั้งรับรู้ Purpose and Value ของเนสท์เล่ ซึ่งปีหน้าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การเพิ่มวันหยุดให้กับคุณแม่หลังคลอด และจัดวันหยุดให้กับพ่อ ที่ต้องอยู่ช่วยคุณแม่เลี้ยงดูบุตรแรกคลอด ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานให้อยู่กับเนสท์เล่อย่างมีความสุข

MP26-3324-1B เนสท์เล่สนับสนุนให้คนก้าวหน้า ลูกน้องคุยกับหัวหน้าตลอดเวลา มีการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการให้บุคลากรเข้าใจว่า เนสท์เล่ทำอะไรอยู่ ทำเพื่ออะไร สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร โดยหัวหน้าจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พูดแล้วทำให้ดู (walk the talk) และยังมีโปรแกรมภายในให้หัวหน้างานและทีมงานได้คุยกันแบบส่วนตัว เพื่อสอบถามและติดตามงานได้อย่างใกล้ชิด

ส่วนของการพัฒนาตนเองและผลการปฏิบัติงาน (PDP : People Development and Performance) ของพนักงาน เนสท์เล่เปิดโอกาสให้พนักงานเติบโตทั้งในสายงาน และสายอาชีพที่เขาต้องการ ผ่านการฝึกอบรม 2 ด้าน คือ 1. Leadership Training พัฒนาการเป็นผู้นำ สอนคนระดับหัวหน้าให้สามารถพัฒนาทีมงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. Functional Training เป็นการพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน ตามสายงาน (Get Skill)

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาร่วมงาน ได้เติบโตในสายอาชีพของตัวเอง (Get Hired) จากพนักงานรุ่นใหม่ที่อายุไม่ถึง 30 ปี จำนวนกว่า 352 คน คนกลุ่มนี้ต้องการแสดงออก ต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน และเนสท์เล่ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาฝึกงานภายในองค์กร ทั้งในส่วนของออฟฟิศและโรงงาน (Get Support) พร้อมทั้งสอนให้เขาเตรียมตัวก่อนเรียนจบ เพื่อการเข้าทำงานในองค์กรต่างๆ

ในวันนี้ “ร็อคเซน่า” บอกว่า เนสท์เล่มีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา สำหรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสังคมผู้สูงวัยของไทย และเทคโนโลยี IoT ที่กำลังเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเนสท์เล่มีการพัฒนาคนในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบการฝึกอบรมภายในที่มีรองรับและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,324 วันที่ 21 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9