ชงภาษีจูงใจทัวร์เมืองรองบูมท่องเที่ยว

20 ธ.ค. 2560 | 06:13 น.
คลังมอบของขวัญปีใหม่ ชงครม.ไฟเขียวหักภาษีท่องเที่ยว 15,000 บาท ตลอดปี 61 โดยไม่ต้องมีใบกำกับภาษี กระตุ้นเที่ยวในเมืองรอง ธ.ก.ส.ตั้งวงเงินแสนล้าน ปล่อยกู้ 2.2 ล้านราย ส่วนออมสินปูพรมหมื่นล้านอุ้มคนจน
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดสุโขทัยในวันที่ 26 ธันวาคมนี้คลังจะเสนอมาตร การช่วยผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 พร้อมแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ เช่น ภาษีส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองธ.ก.ส.เตรียมสินเชื่อ 1 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเกษตรกร 2.2 ล้านราย ส่วนออมสินเตรียม 1 หมื่นล้านบาทเสริมอาชีพคนจน

[caption id="attachment_242665" align="aligncenter" width="334"] อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[/caption]

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้า มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เฟส 2 ว่า ได้รับรายงานถึงแผนเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดถึงการปฏิบัติ จึงได้สั่งการให้กลับไปจัดทำแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริง โดยจะต้องมีการหารือร่วมกับหน่วยงานปฏิบัติ ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะได้แผนที่สมบูรณ์ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ จะเสร็จและเสนอ ครม.เพื่อเริ่มต้นในปีหน้า

สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองรองหรือทุกจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก นายอภิศักดิ์ กล่าวว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จะจัดทำรายชื่อแล้วว่า เมืองใดที่เป็นเมืองรองและต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยว

ดังนั้นกรมสรรพากรก็จะออกประกาศเงื่อนไขที่จะได้รับประโยชน์หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดตามรายชื่อของททท.ภายในปี 2561 ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าเดินทางค่าอาหาร โดยสามารถใช้เพียงใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก

“ทั้ง 2 เรื่องจะเร่งเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาโดยเร็ว ถ้าไม่ทันสัปดาห์นี้ก็อาจเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย” นายอภิศักดิ์ กล่าว

[caption id="attachment_208209" align="aligncenter" width="503"] นายสมชัย สัจจพงษ์ นายสมชัย สัจจพงษ์[/caption]

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า มาตรการปีหน้าหลักๆคือการดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำมาตรการร่วมกับกระทรวงอื่น คาดว่าจะเสนอครม.สัญจร 26 ธันวาคมนี้

“มาตรการแต่ละอันใช้กับทุกคนไม่ได้ถ้าเขาต้องการงาน ต้องการศึกษา ก็ต้องให้ตรงกับสิ่งที่ต้องการ จะมีทีมเข้าไปดูแลเป็นการเฉพาะ” นายสมชัยกล่าว

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธ.ก.ส.กล่าวว่าเตรียม 3 มาตรการ 9 โครงการให้บอร์ดอนุมัติในวันที่ 20 ธันวาคมคือ มาตรการดูแลผู้มีภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างอาชีพและมาตรการให้กำลังใจลูกค้าชั้นดีวงเงินสินเชื่อรวม 1 แสนล้านบาทระยะเวลา 3 ปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 2.2 ล้านราย

การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านรายนั้น เป็นเกษตรกร 3.9 ล้านราย และในจำนวนนี้เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.อยู่แล้ว 9 แสนราย ดังนั้นมาตรการที่ออกมาจึงครอบคลุมผู้มีรายได้น้อย ลูกค้าปกติและลูกค้าที่มีปัญหาหนี้นอกระบบ และลูกค้าดีที่มาชำระหนี้เต็มจำนวน 1 มกราคม จะคืนเงินให้ 30%

“การคืนดอกเบี้ย 30% ให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ดี เท่ากับดอกเบี้ยจะลดลง 2-3% จากดอกเบี้ยปกติ 7% อย่างเฉลี่ยธ.ก.ส. 2.5 แสนบาทต่อราย ดอกเบี้ย 7% จะประมาณ 18,000 บาท จะได้รับคืนประมาณ 5,000 บาทที่สามารถนำไปตัดยอดเงินต้นได้ ซึ่งส่วนนี้มีลูกหนี้ประมาณ 2 ล้านคน น่าจะใช้เงินประมาณ 4,000 ล้านบาท” นายสมศักดิ์ กล่าว และว่า ส่วนของการให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ จะมีตั้งแต่ 0.1-7% ซึ่งส่วนที่ 0.1% ก็ต้องขอชดเชยจากรัฐบาลต้องเข้าครม.น่าจะเป็นวันที่ 26ธันวาคมนี้พร้อมๆกัน

[caption id="attachment_185582" align="aligncenter" width="503"] ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน[/caption]

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสินกล่าวว่ามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียน 11.4 ล้านคนที่จะเสนอเข้าไปในครม.คือสินเชื่อส่งเสริมผู้มีรายได้น้อย 10,000 ล้านบาท โดยเป็นให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนอาชีพที่กำหนด คือ สินเชื่อโฮมสเตย์ สินเชื่อแฟรนไชส์ สินเชื่อสตรีท ฟู้ด สินเชื่อฟู้ด ทรัค คนละไม่เกิน 50,000 บาท และสินเชื่อผู้ได้รับบัตรสวัสดิการรัฐอีกรายละไม่เกิน 50,000บาท นอกจากนั้นยังมีมาตร การส่งเสริมการออมของผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับดอกเบี้ย 3% จากปกติ 1% โดยเป็นการฝากประจำรายเดือน ตั้งแต่ 100-1,000 บาท ครบ 5 ปีก็จะได้รับดอกเบี้ย 3%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-5-503x62