‘สื่อดิจิตอล’พุ่งแรง โตกระโดดขึ้นที่2
แม้จะประเมินว่าเม็ดเงินโฆษณาในปีนี้จะลดลงต่อเนื่องจากหลายปัจจัยที่ถาโถมเข้ามา แต่ดูเหมือน “สื่อดิจิตอล” สื่อน้องใหม่กลับโตแบบก้าวกระโดด สวนทางสื่ออื่น จนมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากสื่อโทรทัศน์
นายอิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ เคดับบลิวพี (KWP) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อดิจิตอลเพิ่มขึ้น มาจากการมีจำนวน ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยกว่า 75% เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ปีก่อนที่มีราว 49% ขณะเดียวกันพบว่าในปีนี้ ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 83% มีสมาร์ทโฟนในครอบครอง ใช้อินเตอร์เน็ตนานขึ้นจาก 2 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2558 เพิ่มเป็น 2.30 ชั่วโมงต่อวันในปี 2560 ซึ่งสวนทางกับการรับชมโทรทัศน์และรับฟังวิทยุที่ผู้บริโภคใช้เวลาเท่าเดิมหรือลดลง
[caption id="attachment_118926" align="aligncenter" width="503"]
อิษณาติ วุฒิธนากุล[/caption]
อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วพฤติกรรมของช็อปเปอร์มีการเสพสื่อดิจิตอลนานขึ้น และ มากขึ้นทั้งในและนอกบ้านทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าสื่อดิจิตอลจะสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่องอย่างแน่นอน นอกจากนี้การขยายตัวของตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มช็อปเปอร์ ส่งผลให้ในปีนี้มียอดจับจ่ายในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4,399 ล้านบาท โดย 79.5% รู้ว่าสามารถจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียล มีเดียได้ ขณะที่ 29.7% เคยซื้ออย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่งสูงกว่าช่องทางออนไลน์จากโมเดิร์นเทรด เช่น 7-11 Online, Tesco Lotus Online เป็นต้น
โดยเว็บไซต์ที่ช็อปเปอร์นิยมสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ เว็บไซต์ทั่วไป (Independent Website) 33.6%, เฟซบุ๊ก 29.9% ลาซาด้า 28.1% ไลน์ 7.3% ทั้งนี้ผลการวิจัยของ กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล ไทยแลนด์ ยังพบว่าความถี่และระยะเวลาในการใช้เฟซบุ๊กส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในโลก ออนไลน์และออฟไลน์ โดย 50% ของกลุ่มช็อปเปอร์ที่เล่นเฟซบุ๊กทุกวัน มีแนวโน้มที่จะจับจ่ายในเม็ดเงินที่สูงกว่าผู้บริโภคทั่วไปถึง 2 เท่า และเมื่อมองในมุมของระยะเวลาที่เล่นต่อวันจะเห็นว่าการที่ช็อปเปอร์ใช้เวลาบนเฟซบุ๊กนานขึ้น จะมีพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นตามลำดับ
ขณะที่กลุ่มคนที่ใช้เวลาบนเฟซบุ๊กน้อยกว่า 10 นาทีต่อวันมีการใช้จ่ายคนละ 19,925 บาทต่อปีโดยเฉลี่ย แต่เมื่อมองกลุ่มคนที่ใช้เวลาบนเฟซบุ๊กมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันพบว่าช็อปเปอร์กลุ่มนี้ใช้จ่ายสูงถึง 26,107 บาทต่อคนต่อปี มากไปกว่านั้นช็อปเปอร์ที่เล่นเฟซบุ๊กทุกวันนั้น ยังมีโอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้าในช่องออนไลน์ มากกว่าช็อปเปอร์ทั่วไปถึง 62%
ผลวิจัยยังพบว่า 29% ของช็อปเปอรที่เล่นเฟซบุ๊กสนใจและสังเกตเห็นโฆษณาออนไลน์ 27% สนใจที่จะเยี่ยมชมแฟนเพจของแบรนด์ และ 18% สนใจที่จะคลิกสื่อโฆษณา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นายอิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ เคดับบลิวพี (KWP) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อดิจิตอลเพิ่มขึ้น มาจากการมีจำนวน ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยกว่า 75% เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ปีก่อนที่มีราว 49% ขณะเดียวกันพบว่าในปีนี้ ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 83% มีสมาร์ทโฟนในครอบครอง ใช้อินเตอร์เน็ตนานขึ้นจาก 2 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2558 เพิ่มเป็น 2.30 ชั่วโมงต่อวันในปี 2560 ซึ่งสวนทางกับการรับชมโทรทัศน์และรับฟังวิทยุที่ผู้บริโภคใช้เวลาเท่าเดิมหรือลดลง
[caption id="attachment_118926" align="aligncenter" width="503"]
อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วพฤติกรรมของช็อปเปอร์มีการเสพสื่อดิจิตอลนานขึ้น และ มากขึ้นทั้งในและนอกบ้านทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าสื่อดิจิตอลจะสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่องอย่างแน่นอน นอกจากนี้การขยายตัวของตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มช็อปเปอร์ ส่งผลให้ในปีนี้มียอดจับจ่ายในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4,399 ล้านบาท โดย 79.5% รู้ว่าสามารถจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียล มีเดียได้ ขณะที่ 29.7% เคยซื้ออย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมาซึ่งสูงกว่าช่องทางออนไลน์จากโมเดิร์นเทรด เช่น 7-11 Online, Tesco Lotus Online เป็นต้น
โดยเว็บไซต์ที่ช็อปเปอร์นิยมสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ เว็บไซต์ทั่วไป (Independent Website) 33.6%, เฟซบุ๊ก 29.9% ลาซาด้า 28.1% ไลน์ 7.3% ทั้งนี้ผลการวิจัยของ กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล ไทยแลนด์ ยังพบว่าความถี่และระยะเวลาในการใช้เฟซบุ๊กส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในโลก ออนไลน์และออฟไลน์ โดย 50% ของกลุ่มช็อปเปอร์ที่เล่นเฟซบุ๊กทุกวัน มีแนวโน้มที่จะจับจ่ายในเม็ดเงินที่สูงกว่าผู้บริโภคทั่วไปถึง 2 เท่า และเมื่อมองในมุมของระยะเวลาที่เล่นต่อวันจะเห็นว่าการที่ช็อปเปอร์ใช้เวลาบนเฟซบุ๊กนานขึ้น จะมีพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นตามลำดับ
ผลวิจัยยังพบว่า 29% ของช็อปเปอรที่เล่นเฟซบุ๊กสนใจและสังเกตเห็นโฆษณาออนไลน์ 27% สนใจที่จะเยี่ยมชมแฟนเพจของแบรนด์ และ 18% สนใจที่จะคลิกสื่อโฆษณา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
