“สยามพิวรรธน์” ปักหมุดแม็กเนตใหม่เอาใจคนรักสุขภาพ พลิกพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. ในสยาม ดิสคัฟเวอรี่ เป็นมัลติแบรนด์สโตร์สินค้าเพื่อสุขภาพ อีโคเฟรนด์ลี่กว่า 100 แบรนด์ใหญ่สุดในเอเชีย
นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ฯ เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเป็นผู้นำนวัตกรรมรีเทล ล่าสุดทุ่มงบ 25 ล้านบาท เปิดตัว “อีโคโทเปีย” (Ecotopia) บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร พัฒนาเป็นมัลติแบรนด์สโตร์ นำเสนอสินค้าเพื่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า 100 แบรนด์ รวมกว่า 5,000 รายการ บริเวณชั้น 4 ศูนย์การค้าสยาม ดิสคัฟเวอรี่
[caption id="attachment_199381" align="aligncenter" width="503"]
อุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด[/caption]
สำหรับ “อีโคโทเปีย” เกิดขึ้นเพื่อตอกยํ้าคีย์หลักของบริษัทในเรื่อง Sustainability มาจากการรวมของคำว่า Ecology + Utopia แปลว่า ดินแดนแห่งอุดมคติการใช้ชีวิตด้วยการฉลาดเลือกฉลาด โดยการสร้างประสบการณ์และคุณค่าที่เป็น Story-doing กับผู้บริโภคให้เกิดขึ้นจริง ผ่านการนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์ มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ชูจิตสำนึกในการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเป็นสินค้าจากชุมชนคนไทย 90% สินค้านำเข้า 10% แบ่งเป็น 5 ประเภทหลักได้แก่ สินค้าเฮลธ์แอนด์คอนเชียสฟูด, อีโคซัสเทนเอเบิลแฟชั่น, อีโคออร์แกนิกบิวตี้แอนด์สปา กว่า 60 แบรนด์, อีโคโฮมแอนด์เดคคอร์ อีก 20 แบรนด์ และ อีโค่ แกดเจตแอนด์สเตชันเนอรี เช่น ยางลบจากเปลือกหอย, หนังสือที่สามารถเข้าไมโครเวฟเพื่อลบรอยขีดเขียน เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายหมุนเวียนสินค้าในพื้นที่และเปิดโอกาสให้สินค้าใหม่ของชุมชนที่ตรงตามคอนเซ็ปต์เข้ามาร่วมขายสินค้าบนopen space ที่เป็นออร์แกนิก ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ สร้างสรรค์กลายเป็นสินค้าคุณภาพ ตั้งเป้าเป็นแหล่งรวมสินค้าเพื่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่สุดในเอเชีย Asia’s Leading Eco Lifestyle & Well Being Destination)
โดยโซนอีโคโทเปีย จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยอัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย กิจกรรมเวิร์กช็อป ต้อนรับกระแสจับจ่ายส่งท้ายเทศกาลแห่งความสุข ซึ่งได้รับการตอบรับดี คาดว่าจะสร้างยอดขายรวมกว่า 10 ล้านบาท ในปีนี้ และ 100 ล้านบาทในปี 2561 เน้นส่งเสริมตลาดผ่านช่องทาง ออนไลน์ 60% ออฟไลน์ เช่น ป้ายโฆษณาต่างๆ อีก 40% และมีแผนขยายพื้นที่เพิ่มในปีหน้าด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560