สงครามใหม่ ของธุรกิจครอบครัว (จบ)

17 ธ.ค. 2560 | 08:09 น.
MP35-3323-1B แต่ปัญหาใหม่ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นคือ สงครามแย่งชิงคนเก่ง (The war for talent) และเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจครอบครัวกังวลใจมากที่สุดและเป็นสิ่งที่ยากลำบากในการดึงดูดคนเก่งที่พวกเขาต้องการเข้ามา ถึงแม้ว่าธุรกิจครอบครัวจะโชคดีที่มีความสามารถในการรักษาคนเก่งของตนไว้ได้ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในสภาวะที่ต้องต่อสู้เพื่อดึงดูดแรงงานที่มีทักษะตามที่ต้องการเอาไว้ จากการสำรวจพบว่าธุรกิจครอบครัว 43% ระบุว่า “สงครามแย่งชิงคนเก่ง” เป็นปัญหาสำคัญที่สุดที่กำลังเผชิญ โดยธุรกิจครอบครัว 32% ชี้ว่าไม่มีความเพียงพอของแรงงาน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงกดดันต่อธุรกิจครอบครัวมากขึ้น ทั้งนี้ความกังวลในเรื่องเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากผลการสำรวจเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่าความกังวลในประเด็นสงครามแย่งชิงคนเก่งได้เพิ่มขึ้นจาก 33% ในปี 2015 เป็น 37% ในปี 2016 และ 43% ในปี 2017 ขณะที่ต้นทุนแรง งานเพิ่มขึ้นจาก 26% ในปี 2015 เป็น 32% ในปี 2016 และคงที่ 32% ในปี 2017 ดังนั้นจึงมีความพยายาม ในการปรับปรุงการสรรหาบุคลากรโดยธุรกิจครอบครัวหันไป เน้นการสร้างและการสื่อสารค่านิยมที่มีความเฉพาะของตนมากขึ้น

MP35-3321-1a เนื่องจากธุรกิจครอบครัวมีลักษณะพิเศษในเรื่องความผูกพันกันในองค์กรทำให้อัตราการรักษาพนักงานและระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งของพนักงานที่ยาวนานกว่าธุรกิจอื่นทั่วไป และมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการปลดพนักงานในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว เช่นเดียวกับการมีวัฒนธรรมความทุ่มเทและมีเป้าหมาย บวกกับแนวโน้มที่จะลงทุนในการฝึกอบรมพนักงานมากขึ้นทำให้พวกเขาเป็นที่ดึงดูดใจของผู้หางานเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามหากไม่มีคนที่มีทักษะเหมาะสมในองค์กร ธุรกิจครอบครัวอาจทำให้ต้องหยุดชะงักความหวังที่จะมีการเติบโตต่อไป ดังนั้นการเอาชนะความท้าทายนี้จะต้องมีแนวคิดใหม่ที่จะช่วยให้พวกเขามีความโดดเด่น แม้ธุรกิจครอบครัวอาจไม่ให้หุ้นหรือข้อเสนอพิเศษแก่พนักงาน แต่พวกเขาจะให้มากขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับความจงรักภักดี การลงทุนระยะยาวและความทุ่มเทต่อบริษัท ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากมีการตัดกำลังคนที่องค์กรจำเป็นต้องมีในแต่ละระดับออกเป็นประจำ แต่เหตุการณ์เช่นนี้ยาก ที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจครอบครัว จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจครอบครัวกำลังเรียกร้องให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบ ด้านแรงงานโดย 41% ระบุว่ากฎระเบียบ ตลาดแรงงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยกระตุ้นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจได้

ทั้งนี้การสำรวจคาดว่าสถานการณ์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะยังคงท้าทายธุรกิจในปีต่อๆ ไป ดังนั้นการตอบสนองและความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจครอบครัวจะมีผลต่อความท้าทายและความสำเร็จของพวกเขาต่อไป ซึ่งคาดว่าธุรกิจครอบครัวจะต้องการปฏิรูปเพื่อลดภาระในการจัดการ ลดภาษีและมีโอกาสในการเข้าถึงคนเก่งมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลง โดยรวมแล้วผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการลงทุนในด้านนวัตกรรมกำลังให้ประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจครอบครัวในยุโรป หากพวกเขายัง คงสามารถเอาชนะความท้าทายและหาคนเก่งที่เหมาะสมได้ จะทำให้ธุรกิจมีการเติบโตซึ่งจะนำไปสู่อนาคตที่สดใสต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9