หวั่นโปรเจ็กต์รัฐเลื่อนประมูล สมาคมก่อสร้างฯโอดครวญปี61รัฐบาลมุ่งภาคเกษตร

19 ธ.ค. 2560 | 09:09 น.
สมาคมก่อสร้างฯส่งสัญญาณลบข้ามปี จับตารายกลางรายย่อยได้รับผลกระทบ เหตุรัฐบาลเบนเข็มรุกภาคเกษตรแทนเมกะโปรเจ็กต์เพราะราคาพืชผลเกษตรตกตํ่าสุดๆ เชื่อปีหน้าโครงการเฟส 2 และส่วนต่อขยายส่อแววเลื่อนยาวเหตุไม่มีงบประมาณ

แหล่งข่าวระดับสูงของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมและสถานการณ์วงการอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้และปีหน้าว่าปีนี้ภาพรวมยังทรงตัวเนื่องจากหลายโครงการยังเลื่อนลงนามสัญญาและเปิดประมูลข้ามปีทั้งๆ ที่น่าจะสามารถดำเนินการได้ทันในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือปลายปี 2560

ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างที่ไม่มีงานป้อนเข้าสู่ระบบตามที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะมีงานป้อนจำนวนมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้นที่เป็น การก่อสร้างจริงๆ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ-ใต้ และสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสี เหลืองยังอยู่ระหว่างการย้ายระบบสาธารณูปโภคเท่านั้นคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างอย่างจริงจังกลางปี 2561

โดยภาวการณ์เช่นนี้สำหรับผู้รับเหมารายใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากมีปริมาณงานในมือ (แบ็กล็อก) รองรับไว้จำนวนมาก แต่สำหรับรายกลางรายย่อยที่มีงานในมือจำนวนไม่มากจะประสบกับภาวะวิกฤติอีกครั้ง จึงน่าเป็นห่วงเนื่องจากหลายบริษัทพบว่ามีการลงทุนในปีนี้ไปแล้วจำนวนมาก แต่หากปีหน้าไม่มีงานป้อนเพิ่มให้จะส่งผลต่อสภาพคล่องเกิดขึ้นตามมา

MP31-3323-1A “รัฐบาลโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความชัดเจนแล้วว่าในปี 2561 รัฐบาลจะหันไปสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นให้กับภาคการเกษตรมากขึ้น เนื่องจากเล็งว่าขณะนี้หากยังเทงบประมาณไปสนับสนุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เพิ่มอีกแต่ราคาสินค้าหรือพืชผลการเกษตรยังไม่ดีขึ้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวมอย่างแน่นอนเนื่องจากภาคการเกษตรนั้นเป็นภาพรวมขนาดใหญ่ที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั่นเอง”

ดังนั้นโครงการใหม่จึงอาจยังไม่เร่งรัดในขณะนี้ซึ่งจัดเป็นโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลที่ยังไม่มีการเปิดประมูล ไม่ว่าจะเป็นโครงการในระยะเฟสที่ 2 หรือส่วนต่อขยายทั้งหมด เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ หรือทางด่วนล้วนมีแนวโน้มว่าจะเลื่อนการเสนอประมูลออกไปก่อน ประการสำคัญยังมีโครงการในเฟสแรกที่จะมีการลงนามสัญญาอีกจำนวนหนึ่งซึ่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกราว 1 ปี อาทิ รถไฟทางคู่ 13 สัญญา มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ที่เปิดประมูลและได้ตัวผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความชัดเจนด้านการส่งมอบพื้นที่จากการเสนอขอรับงบประมาณเวนคืนเพิ่มเติมให้เรียบร้อยเท่านั้น

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงในปี 2561 คือบริษัทรับเหมาจากต่างประเทศจะเข้ามาแข่งขันกันมากน้อยแค่ไหน ส่วนมาตรการหรือกฎระเบียบภาครัฐน่าจะลงตัวหมดแล้วโดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่น่าจับตาการปรับภาษีจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ เช่นเดียวกับการควบรวมทางธุรกิจของบริษัทรับเหมารายกลาง รายย่อย ยังน่าจะไม่มีเกิด ขึ้นเนื่องจากจะมีภาระทางด้านบัญชี อาจ จะมีบ้างในรูปแบบการจอยต์เวนเจอร์ที่เคลียร์บัญชีไม่ยุ่งยาก ประการสำคัญรายใหญ่จึงน่าจะช่วยรับเหมารายกลางและรายย่อยให้ช่วยมีการรับงานได้มากขึ้น เพื่อช่วยให้อยู่รอดได้ในปี 2561 นี้”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9