เตรียมตัวรับมือปี 2018

17 ธ.ค. 2560 | 07:59 น.
M1933231-1b ปี 2017 กำลังจะผ่านพ้นไป ถือเป็นอีกปีที่ดีของการลงทุน ถ้าดูจากผลตอบแทนในตลาดหุ้นทั่วโลก พร้อมใจกันปรับขึ้นค่อนข้างมาก เฉลี่ย 10-40%

สำหรับในปีหน้า 2018 มีความเสี่ยงอะไรที่ควรให้ความสนใจ เราลองมาดูกันค่ะ

1.สภาพคล่องที่เริ่มปรับลดลงโดยธนาคารกลางหลักของโลก เริ่มทยอยปรับลดการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณทางการเงิน (QE) หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศจะลดขนาดงบดุล ปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคํ้าประกันที่ถือครองอยู่ครบอายุโดยไม่นำไป Reinvest ต่อวงเงินเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเพิ่มขึ้นทีละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทุกไตรมาส จนถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2017

ธนาคารกลางยุโรปก็ประกาศลดวงเงินทำ QE ลงจาก 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน เป็น 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2561 ธนาคารกลางญี่ปุ่นก็เริ่มลดการซื้อสินทรัพย์หลังดำเนินนโยบาย Yield Curve Control หากลองคาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นจาก 3 ธนาคารกลางขนาดใหญ่แล้วจะพบว่าสภาพคล่องแท้จริงยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นแต่ในสัดส่วนที่ลดลงมาเรื่อยๆ จนเริ่มลดลงเป็นลบจริงๆในไตรมาส 1 ปี 2019 ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้นได้

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก 2. ความเสี่ยงทางการเมืองในฝั่งยุโรปยังไม่จบ แม้การเลือกตั้งของเยอรมนีจะผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มาจาก 3 พรรคการเมืองได้และอาจมีแนวโน้มต้องจัดเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งปีหน้าอิตาลีก็จะจัดเลือกตั้งเดือนเมษายน- พฤษภาคม 2561 ผลสำรวจล่าสุดคะแนนระหว่างพรรครัฐบาลปัจจุบันกับพรรคต่อต้าน EU อย่างพรรค M5S ค่อนข้างสูสีกัน

3.การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของจีน ที่มุ่งเน้นนโยบายการเงินที่รัดกุมเพื่อลดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินเชื่อที่มีปัญหาหนี้สินอยู่ในระดับสูง ปฏิรูปเศรษฐกิจโดยลดกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เหล็ก และถ่านหิน มุ่งเน้นการเติบโตเชิงคุณภาพ หันมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศ และส่งเสริมสินค้านวัตกรรมแทน

4.สิ่งที่สำคัญสุดคงต้องจับตาดูการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน เพราะต้องยอมรับว่า P/E ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตเกือบหมด หากบริษัทต่างๆ ไม่สามารถทำกำไรได้ตามคาดหมายก็อาจเป็นสาเหตุทำให้นักลงทุนขายทำกำไรและปรับลดราคาเป้าหมายลงมาได้

ทว่าจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ดี เงินเฟ้อยังไม่สูงเกินไป และการดำเนินนโยบายทางการเงินค่อยเป็นค่อยไป ปี 2018 น่าจะยังเป็นปีที่ดีของการลงทุนในตลาดหุ้น แต่อาจเผชิญความผันผวนบ้าง จึงต้องลงทุนระมัดระวังมากขึ้น เน้นกลุ่มที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีบนระดับราคาที่เหมาะสมเป็นสำคัญ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9