ที่นี่ไม่มีความลับ : จบแบบไหน ร.พ.กรุงเทพ กฎหมายหรือกฎแห่งกรรม?

15 ธ.ค. 2560 | 13:04 น.
 

657775
IMG_20170208_152515-e1486972646410
สมาชิกโครงการไลฟ์ พริวิเลจ คลับ ของโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) อย่าเพิ่งดีใจกับชัยชนะยกแรกที่ศาลแพ่งพิพากษาให้ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เจ้าของร.พ.กรุงเทพ แพ้คดีที่ไปชิงบอกเลิกสมาชิกและไม่ปฏิบัติตามสัญญา เพราะ BDMS ประกาศจะอุทธรณ์ต่อสู้คดี โดยให้เหตุผลว่าเป็น “สิทธิทางกฎหมาย” ฉะนั้นสมาชิกโครงการนี้ต้องไปลุ้นต่อในชั้นอุทธรณ์ เมื่อ BDMS ไม่ยอมแพ้
bmc-07 โครงการไลฟ์ พริวิเลจ คลับ ของร.พ.กรุงเทพ เกิดขึ้นหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ “ต้มยำกุ้ง” หลังปี 2540 ธุรกิจส่วนใหญ่ประสบปัญหารวมทั้งธุรกิจโรงพยาบาล จึงมีการคิดโครงการนี้เพื่อดึงเงินจาก “ผู้มีอันจะกิน” เพื่อมาอุ้มธุรกิจโรงพยาบาลที่อาจจะมีโอกาสล้มครืนลงมา หากไม่มี “เงินทุน” มาต่อธุรกิจในขณะนั้นจึงคิดเอาเงินในอนาคตคนอื่น แลกกับโปรโมชั่น รักษาฟรีตลอดชีพ ด้วยการเสียค่าบริการครั้งละ 100 บาท

การระดมทุนครั้งนั้นว่ากันว่า ได้เงิน ราว 700-800 ล้านบาท จึงเป็นโอกาสให้ BDMS พยุง ฐานะและมาอู้ฟู่ได้ถึงทุกวันนี้ IMG_20170208_132231-e1486975668650 สมาชิกในขณะนั้นต้องเสียค่าสมัครเป็นเงินสดหรือทองคำ เป็นมูลค่าตั้งแต่ 1-2 ล้านบาท แต่ผู้เข้าร่วมโครงการถือว่า ซื้อบริการสุขภาพในระยะยาวจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ

แต่ในยุคอู้ฟู่ที่มีเงินหมื่นล้านไปซื้อโรงแรมเพื่อทุบทิ้งสร้างธุรกิจโรงพยาบาลเพิ่มเติม กลับ “เขี่ย” ผู้มีบุญคุณในยามวิกฤติทิ้ง ด้วยการประกาศเลิกโครงการนี้เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เกิดการคัดค้านและนำไปสู่การฟ้องร้องทั้งต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และศาลแพ่ง
BH2-1-620x459 ในขณะที่ “เสือกระดาษ” อย่าง สคบ.ทำงานเชื่องช้า (ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ช้า) ศาลแพ่งได้ทำให้ความยุติธรรม “ไม่ล่าช้า” พิพากษาให้ BDMS แพ้คดี ต้องเปิดโครงการสมาชิก ไลฟ์ พริวิเลจ คลับต่อ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายและค่าทนาย แต่ BDMS ที่ประกาศว่าเคารพศาล กลับขออุทธรณ์คำสั่ง!

thaipublica-SMS-BH-447x620

แน่นอนเป็นวิธีทางกฎหมายดังที่ BDMS ประกาศ แต่สิทธิทางกฎหมายไม่ได้สูงเกินกว่า “มโนสำนึกแห่งความรับผิดชอบชั่วดี”  ผู้บริหารควรพิจารณาเรื่อง “สำนึก” ควบคู่สิทธิทางกฎหมายด้วยว่าควรจะต่อสู้กับผู้เคยมีพระคุณต่อโรงพยาบาลอีกต่อไปหรือไม่

tp12-3222-a

ร.พ.กรุงเทพ ก็มีกำไร จนทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กลายเป็นผู้รวยหุ้นที่สุดในประเทศไทยในผลการสำรวจปีนี้ไปแล้ว เมื่อผลประกอบการดี มีกำไรจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นได้เป็นกอบเป็นกำ การต้องชดใช้บุญคุณผู้มีอุปการคุณ อย่างสมาชิกโครงการนี้ด้วยการดูแลกันต่อตามสัญญา ไม่น่าจะเป็นภาระมากเกินไปในธุรกิจโรงพยาบาลที่อู้ฟู่ขนาดนี้ จงไตร่ตรองให้ดีว่าถ้าสู้ต่อไปตามสิทธิทางกฎหมาย ท่านอาจจะพลิกกลับมาชนะทางคดี แต่ในความดีและความชอบธรรมท่านจะชนะหรือไม่


1513229207933 แน่นอนไม่มีใครสามารถตัดสินได้ว่า อะไรคือความดีความชอบธรรม เพราะแต่ละคน “มาตรฐานไม่เหมือนกัน” บางคนอาจคิดว่าเร่งหาเงินไปใช้ในนรกหรือสวรรค์เถอะเพราะมันเอาไปได้ (เผาเป็นแบงก์กงเต๊กไป) แต่บางคนบอกว่าอย่าเลยเพราะ “ตายแล้วเอาไปไม่ได้” ก็แล้วแต่จะคิด ซึ่งทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ไม่ว่ากัน

1513229152166

ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BDMS ขณะนี้ 3 อันดับแรก คือ 1.น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ จำนวน 2,893,602,540 หุ้น หรือคิดเป็น 18.68% 2.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,008,418,690 หุ้น คิดเป็น 6.51% 3.บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 948,283,830 หุ้น คิดเป็น 6.12% นี่ยังไม่รวมคนในครอบครัว ปราสาททองโอสถ ที่ถือหุ้นใน BDMS อีกจำนวนหนึ่ง
....................
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ/ หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3323 ระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค.2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9