พาณิชย์ยันภาครัฐเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ

14 ธ.ค. 2560 | 10:20 น.
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร  อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำนั้น คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 และมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ด้วยการลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือที่ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าระดับปกติเพื่อบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศให้มีเสถียรภาพ

โดยให้ผู้ส่งออก โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเร่งส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ให้กระทรวงพลังงานประสานผู้ค้าน้ำมันซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อเพิ่มสต็อกนอกเหนือจากที่ผู้ค้ามาตรา7สำรองไว้เดิมและให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกการส่งออก เช่น การขนส่งน้ำมันปาล์มและเรือในการส่งออก และให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) หารือกับเกษตรกรและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม กำหนดแนวทางการช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับราคาที่ดีขึ้น โดยเน้นการผลิตปาล์มคุณภาพ ปัจจุบันราคาผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) อยู่ที่ กก.ละ 3.20 - 3.30 บาท และน้ำมันปาล์มดิบที่ กก.ละ 19.00 บาท ลดลงจากช่วงที่ผ่านมา

boonyarit

เป็นผลมาจากภาวะการค้าน้ำมันปาล์มดิบทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งมีผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ประกอบกับในปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ออกสู่ตลาดประมาณ 13.51 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาปรากฏว่าเพิ่มขึ้น 18.30% ซึ่งคิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ (ที่เปอร์เซ็นต์17.60% ) จะได้ 2.377 ล้านตัน (น้ำมันปาล์มดิบ) ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศปี 2560 อยู่ในระดับทรงตัว คาดว่าจะใช้ 2.068 ล้านตัน ปริมาณผลผลิตมีเกินความต้องการใช้ประมาณ 309,000 ตัน เมื่อรวมกับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือเมื่อต้นปี 2560 ทำให้ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบอยู่ในเกณฑ์สูงตามที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังทราบ

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ดำเนินการประสานกับฝ่ายความมั่นคง (ทหาร) และกระทรวงการคลัง โดยให้กรมศุลกากรเพิ่มความเข้มงวด กวดขัน ตรวจสอบ ปราบปรามการลักลอบนำเข้าและนำผ่านหรือผ่านแดนน้ำมันปาล์มทั้งทางบกและทางทะเลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศ รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อเร่งหาตลาดใหม่รองรับ  การส่งออกน้ำมันปาล์มตามกลไกตลาดปกติเพิ่มขึ้น ตลอดจนจะดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาในเชิงระบบและสนับสนุนให้มีการพัฒนาปาล์มอย่างยั่งยืนที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยให้องค์การคลังสินค้าเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ในลักษณะของสัญญาประชาคม และกำหนดมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปาล์มในเชิงคุณภาพให้ได้มาตรฐานและให้โรงงานสกัด/ลานเทรับซื้อผลปาล์มสดตามเปอร์เซ็นต์น้ำมันจริง (ไม่ต่ำกว่า 18 %) รวมถึงกำหนดราคารับซื้อตามตลาดโลกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9