“ETE” ปักธงปี 61 โตต่อเนื่อง 20-30%

14 ธ.ค. 2560 | 08:15 น.
“บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง” ลุ้นผลงานไตรมาสสุดท้ายดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้ารับงานใหม่หนุนมูลค่างานในมือเพียบ ปี 61 ปักธงรายได้โตต่อเนื่อง 20-30%

นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ETE เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตตามเป้ าหมายที่วางไว้ โดยผลงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้ารับงานใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจบริการบริหารจัดการ หรือ Outsourcing และธุรกิจบริการวิศวกรรม โดยล่าสุด ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 บริษัทฯได้รับการยืนยันการจ้างงาน และเซ็นสัญญารับงานเพิ่มเติมกับผู้ว่าจ้าง จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 134.75 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจบริการบริหารจัดการบุคลากรให้กับหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 27.27 ล้านบาท และธุรกิจบริการงานวิศวกรรม จำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นงานจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี Loop Line ช่วงสถานีไฟฟ้าแรงสูงระนองการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 107.48 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เป็นต้นไป

ไรวินท์ ในขณะที่ในปี 2561 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตที่ 20-30% เนื่องจากแนวโน้มปริมาณงานธุรกิจบริการงานวิศวกรรม ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้ นจากในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจจัดหา และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในปีหน้าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้ได้เต็มปีอีกด้วย

“โดยภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้น่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้ ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ ส่วนปีหน้าเราก็คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งเข้ามาเต็มปี และปริมาณงานด้าน Engineering ก็คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชน” นายไรวินท์กล่าว

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทฯประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 184% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.17 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 404.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.06% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี รายได้รวม 339.88 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 13.66% เป็น14.81%