พาณิชย์จัดงานแฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อยออมสินให้สินเชื่อเป็นทุน
พาณิชย์ เดินหน้าต่อยอดสร้างอาชีพ จัดงาน แฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อย นำธุรกิจแฟรนไชส์ ราคาประหยัดกว่า 40 แบรนด์ มาเป็นพี่เลี้ยงในการตั้งต้นอาชีพ พร้อมมีธนาคารของรัฐ มาให้สินเชื่อเพื่อเป็นทุน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ ที่เข้าร่วมออกบูทแสดงธุรกิจในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็ก มีมูลค่าการซื้อขายต่อธุรกิจอยู่ที่ 10,000 - 50,000 บาท และยังมีแฟรนไชส์มืออาชีพ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้คัดเลือกไว้อีก 500 แบรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีราคาไม่สูงมากเหมาะสำหรับผู้จะเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งหากผู้มีรายได้น้อยสนใจลงทุนในแบรนด์ใดก็สามารถเจรจาซื้อ-ขายกันได้ทันที พร้อมเตรียมจะขยายผลการจัดงานไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพื่อกระจายความรู้ในการทำธุรกิจและการพัฒนาผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในต่างจังหวัดให้มีอาชีพที่มั่นคงเสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้มีธุรกิจแฟรนไชส์ มากกว่า 40 แบรนด์ เช่น แบรนด์พิซซ่าอาหม่วย แหม่ม ซาลาเปาลาวา โจ๊กแต้จิ๋ว ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด และสเต็กขั้นเทพ เป็นต้น ได้รวบรวมไว้ในงาน "โครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อย" ที่กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้น ต่อยอดจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาล ที่ช่วยบรรเทาค่าครองชีพ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ มาเป็นพี่เลี้ยงในการตั้งต้นอาชีพ พร้อมมีธนาคารออมสิน มาพิจารณาให้สินเชื่อ
รวมไปถึงมีการสัมมนาให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับแฟรนไชส์ / การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย/ และหลักการเลือกซื้อแฟรนไชส์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ไว้รองรับการขอสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท กำหนดสินเชื่อต่อราย สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ไม่เกิน 2 แสนไม่ต้องค้ำประกันอยู่แล้ว สำหรับผู้มีรายได้น้อย ส่วนที่ต้องค้ำประกัน ซึ่งโครงการได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการทำอาชีพเสริมเข้าร่วมได้ จะมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้สนใจที่จะลงทุน โดยอัตราดอกเบี้ยจะคิด 0% ต่อเดือนใน 1 ปีแรก และคิดอัตรา 0.50 - 1% ในปีถัดไปจนครบระยะเวลา 7 ปีในการชำระคืนเงินกู้ โดยสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ จนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ ที่เข้าร่วมออกบูทแสดงธุรกิจในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็ก มีมูลค่าการซื้อขายต่อธุรกิจอยู่ที่ 10,000 - 50,000 บาท และยังมีแฟรนไชส์มืออาชีพ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้คัดเลือกไว้อีก 500 แบรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีราคาไม่สูงมากเหมาะสำหรับผู้จะเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งหากผู้มีรายได้น้อยสนใจลงทุนในแบรนด์ใดก็สามารถเจรจาซื้อ-ขายกันได้ทันที พร้อมเตรียมจะขยายผลการจัดงานไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพื่อกระจายความรู้ในการทำธุรกิจและการพัฒนาผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในต่างจังหวัดให้มีอาชีพที่มั่นคงเสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้มีธุรกิจแฟรนไชส์ มากกว่า 40 แบรนด์ เช่น แบรนด์พิซซ่าอาหม่วย แหม่ม ซาลาเปาลาวา โจ๊กแต้จิ๋ว ไจแอ้นลูกชิ้นระเบิด และสเต็กขั้นเทพ เป็นต้น ได้รวบรวมไว้ในงาน "โครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อผู้มีรายได้น้อย" ที่กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้น ต่อยอดจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาล ที่ช่วยบรรเทาค่าครองชีพ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ มาเป็นพี่เลี้ยงในการตั้งต้นอาชีพ พร้อมมีธนาคารออมสิน มาพิจารณาให้สินเชื่อ
รวมไปถึงมีการสัมมนาให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับแฟรนไชส์ / การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย/ และหลักการเลือกซื้อแฟรนไชส์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน และสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ไว้รองรับการขอสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท กำหนดสินเชื่อต่อราย สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้กู้ไม่เกิน 2 แสนไม่ต้องค้ำประกันอยู่แล้ว สำหรับผู้มีรายได้น้อย ส่วนที่ต้องค้ำประกัน ซึ่งโครงการได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการทำอาชีพเสริมเข้าร่วมได้ จะมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้สนใจที่จะลงทุน โดยอัตราดอกเบี้ยจะคิด 0% ต่อเดือนใน 1 ปีแรก และคิดอัตรา 0.50 - 1% ในปีถัดไปจนครบระยะเวลา 7 ปีในการชำระคืนเงินกู้ โดยสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ จนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า
