พาณิชย์เร่งหารือผู้ส่งออกผลักดันน้ำมันปาล์มที่ล้นสต็อกทั้งหาตลาดรองรับเพิ่ม

พาณิชย์ เร่งหารือผู้ส่งออกผลักดันน้ำมันปาล์มที่ล้นสต็อก พร้อมให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหาตลาดรองรับเพิ่มเติมจากตลาดอินเดีย จีน ขณะที่พลังงานรับปากเข้ามาดูดซับออกอีก 50,000 ตัน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ที่ประชุมได้เห็นชอบในแผนผลักการลดสต็อกน้ำมันปาล์มที่ล้นสต็อกในขณะนี้ โดยมอบหมายให้กรมการค้าภายใน หารือผู้ส่งออกในการเร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศ อีกทั้ง ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หาตลาดส่งออกเพิ่มเติมจากตลาดหลักเช่น อินเดีย จีน ทั้งนี้ ทางกระทรวงพลังงานได้ตกลงที่จะเข้ามาดูดซับน้ำมันปาล์ม เพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซลเพิ่มเติม คาดภายใน 2-3 เดือนนี้ จะสามารถลดสต็อกน้ำมันปาล์มได้



ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน หารือผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มในการเร่งผลักดันน้ำมันปาล์มปริมาณ 100,000 ตัน ภายใน 2-3 เดือนจากนี้ ขณะที่กระทรวงพลังงานได้ตกลงที่จะเข้ามารับซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซลเพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงพลังงานพร้อมเข้ารับซื้อในทันที ซึ่งจากเดิมกำลังการผลิตอยู่ที่ 4 ล้านลิตรต่อวัน จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 6 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเติมถึง 60 ล้านลิตรต่อเดือน และจะทำให้สามารถดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากสต็อกได้ปริมาณ 50,000 ตัน

นอกจากนี้ มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หาตลาดใหม่เพื่อผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพิ่มเติม เนื่องจากมีตลาดหลักอยู่แค่จีนและอินเดีย พร้อมกับมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า ดำเนินแก้ไขปัญหาลดสต็อกน้ำมันปาล์มเพิ่มเติมอีกด้วย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สามารถลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มออกไปได้ และจะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันมีการปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลก็ต้องการให้ราคาปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 3.80 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาเดิมในปัจจุบัน