นายกฯเยี่ยมชมวิถีชีวิตทอผ้าไหมแพรวาศูนย์วัฒนธรรมภูไทกาฬสินธุ์
นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กาฬสินธุ์ แนะให้ช่วยกันอนุรักษ์การทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ผ้าพื้นบ้านของชาวผู้ไทย โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริมนำเทคโนโลยีมาพัฒนา สร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า ต่อยอดสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
วันนี้ (13 ธ.ค. 60) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด โดยเครื่องบิน Embrarer บ.ท.135 แล้วเดินทางต่อโดย ฮ.ท. 139 ไปยัง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเดินทางไปตรวจราชการ จ.กาฬสินธุ์
ในเวลา 08.50 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงสนามกีฬากลางบ้านโพน ได้นั่งรถไถนาเดินตาม (รถอีแต๊ก) มายังศูนย์วัฒนธรรมภูไท หมู่บ้านโพน หมู่ที่ 5 ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเยี่ยมชมวิถีชีวิตการทอผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ และประชาชนมารอให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สวมเสื้อพื้นเมืองภูไทกาฬสินธุ์ และชมการแสดงฟ้อนภูไทบ้านโพน และได้ร่วมฟ้อนรำพร้อมเดินชมผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน และผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นฝีมือของชาวบ้าน พร้อมกล่าวพบปะประชาชนตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะกับประชาชนชาวบ้านโพน ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้ มาเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน การบริหารจัดการน้ำ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการหาแนวทางพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี ขอให้ชาวบ้านโพนช่วยกันอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมการทอผ้าพื้นบ้านของชาวผู้ไทย ผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ราชินีแห่งไหม ผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญา ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และมีลวดลายที่มีความสวยงาม วิจิตร ให้เป็นประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้แก่ลูกหลาน ส่งต่อรุ่นต่อรุ่นมาจนเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่ทำรายได้ให้ชาวบ้านโพน ให้มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์
รวมทั้งส่งเสริมให้ก้าวไปสู่ศูนย์กลางแฟชั่นในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะสินค้าพื้นเมืองในกลุ่มผ้าไหมที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย ซึ่งรัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้า ทั้งการออกแบบ และการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าและสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า และพัฒนาต่อยอดให้เข้าสู่ตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ
สำหรับศูนย์วัฒนธรรมภูไท เป็นโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงรับไว้ในโครงการส่งเสริมการทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร มีสมาชิก 70 คน ต่อมาปี 2538 ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน มีสมาชิก 450 คน และในปี 2551 ได้ขอจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกาฬสินธุ์ จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 825 คน ครอบคลุม 4 อำเภอได้แก่ อำเภอคำม่วง สมเด็จ สามชัย และอำเภอสหัสขันธ์ เป็นสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกาฬสินธุ์ จำกัด
เป็นสหกรณ์ฯ ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามวิถีแห่งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าว เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมของคนผู้ไทย การสาธิตการผลิตผ้าไหมแพรวา และเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์จำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะผ้าไหมแพรวา ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งไหม
วันนี้ (13 ธ.ค. 60) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด โดยเครื่องบิน Embrarer บ.ท.135 แล้วเดินทางต่อโดย ฮ.ท. 139 ไปยัง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเดินทางไปตรวจราชการ จ.กาฬสินธุ์
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สวมเสื้อพื้นเมืองภูไทกาฬสินธุ์ และชมการแสดงฟ้อนภูไทบ้านโพน และได้ร่วมฟ้อนรำพร้อมเดินชมผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน และผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นฝีมือของชาวบ้าน พร้อมกล่าวพบปะประชาชนตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะกับประชาชนชาวบ้านโพน ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้ มาเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน การบริหารจัดการน้ำ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการหาแนวทางพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี ขอให้ชาวบ้านโพนช่วยกันอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมการทอผ้าพื้นบ้านของชาวผู้ไทย ผ้าไหมแพรวาบ้านโพน ราชินีแห่งไหม ผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญา ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และมีลวดลายที่มีความสวยงาม วิจิตร ให้เป็นประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้แก่ลูกหลาน ส่งต่อรุ่นต่อรุ่นมาจนเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่ทำรายได้ให้ชาวบ้านโพน ให้มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์
รวมทั้งส่งเสริมให้ก้าวไปสู่ศูนย์กลางแฟชั่นในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะสินค้าพื้นเมืองในกลุ่มผ้าไหมที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย ซึ่งรัฐบาลพร้อมส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้า ทั้งการออกแบบ และการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าและสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า และพัฒนาต่อยอดให้เข้าสู่ตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ
สำหรับศูนย์วัฒนธรรมภูไท เป็นโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงรับไว้ในโครงการส่งเสริมการทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร มีสมาชิก 70 คน ต่อมาปี 2538 ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน มีสมาชิก 450 คน และในปี 2551 ได้ขอจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกาฬสินธุ์ จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 825 คน ครอบคลุม 4 อำเภอได้แก่ อำเภอคำม่วง สมเด็จ สามชัย และอำเภอสหัสขันธ์ เป็นสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพนกาฬสินธุ์ จำกัด
เป็นสหกรณ์ฯ ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามวิถีแห่งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าว เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมของคนผู้ไทย การสาธิตการผลิตผ้าไหมแพรวา และเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศูนย์จำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะผ้าไหมแพรวา ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งไหม
