พานาโซนิคปลุกตลาดอัลคาไลน์ดึง "เจ ชนาธิป" นั่งพรีเซ็นเตอร์
พานาโซนิคทุ่มงบตลาดกว่า 100 ล้านบาท ปลุกตลาดถ่านอัลคาไลน์ ชูจุดเด่นให้พลังงานนานกว่า10เท่า พร้อมดึงพรีเซนเตอร์คนแรก เจ-ชนาธิป ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 2 เท่าในปี 2565
นายฮิเดคาสึ อิโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดถ่านไฟฉายในไทยปัจจุบันเติบโต 1-2%ต่อปี มีมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ1 ที่ 83% สำหรับเซ็กเมนต์ถ่านอัลคาไลน์มีส่วนแบ่งตลาดเป็น72% และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงการซื้อถ่านไฟฉายที่มีคุณภาพและการใช้งานที่ดีกว่าถ่านธรรมดา บริษัทจึงชูแนวคิด 10 Times Longer Lasting พลังไฟยาวนานกว่า 10 เท่า ลุยตลาดถ่านอัลคาไลน์
บริษัททุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการทำตลาดพร้อมเตรียมแคมเปญส่งเสริมการตลาดยกระดับถ่านธรรมดาเป็นถ่านพานาโซนิคอัลคาไลน์และสร้างการรับรู้ถึงทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยการโดยดึง เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์ถ่านพานาโซนิค อัลคาไลน์คนแรกในรอบ30ปีที่บริษัทเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางต่างๆทั้งออฟไลน์อย่าง การโฆษณาทางโทรทัศน์ สปอทวิทยุ บิลบอร์ด ป้ายโฆษณา Out of Home กิจกรรมโรดโชว์ ป้ายหน้าร้านค้า ช่องทางออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คและยูทูป โดยมีสัดส่วนการขายสินค้าผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่าย 60% และห้างสรรพสินค้าอีก 40%
นายวิฑูรย์ เหล่าวีระกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดถ่านอัลคาไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของถ่านธรรมดามีมากกว่า 70% ส่วนถ่านอัลคาไลน์มีสัดส่วนประมาณ 30% ซึ่งคาดว่าในระยะ 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนของยอดขายถ่านอัลคาไลน์จะเพิ่มขึ้น 2 เท่า จาก 30% เป็น 52% เนื่องจากถ่านอัลคาไลน์มีพลังไฟยาวนานกว่า10เท่า ใช้งานได้ยาวนานกว่า11.3เท่า หรือประมาณ 45.99 นาที ซึ่งแตกต่างกับถ่านธรรมดาที่ใช้ได้แค่ 3.98 นาที ตอบโจทย์การใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์โดยเฉพาะอุปรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ที่ต้องการพลังงานมากขึ้น อาทิ กล้องดิจิทัล เมาท์ไร้สาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าดูแลร่างกาย เป็นต้น โดยบริษัทคาดว่าถ่านอัลคาไลน์จะมียอดขาย 2,000 ล้านบาทจากการเพิ่มฐานการผลิตและช่องทางส่งออก และตั้งเป้าตลาดถ่านไฟฟ้ารวมกว่า 4,000 ล้านบาทภายในปี 2565
สำหรับถ่านอัลคาไลน์รุ่นใหม่ นอกจากจะมีการเปลี่ยนโฉมดีไซน์บรรจุผลิตภัณฑ์ของสินค้าใหม่ ด้วยการบรรจุถ่านที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 10, 12, 20, 40 ในปีหน้า ซึ่งราคาจะลดลงตามจำนวนถ่านในแพคเกจนั้น สามารถเก็บได้นานถึง10ปี นอกจากนี้ยังเพิ่มคำอธิบายเป็นภาษาไทยเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจของผู้บริโภค
