ถือเป็นหนุ่มภูธรรุ่นใหม่ ไฟแรง แม้วิถีชีวิตจะเกิดและเติบโตที่จังหวัดอุดรธานี ความที่ได้คลุกคลีกับธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถฮีโน่ ในประเทศไทย ทำให้ “บอสส์-ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย” กรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด มาสเตอร์ แฟรนไชส์ร้านไก่ทอด “คารายามะ” จากประเทศญี่ปุ่น เลือกที่จะไปศึกษายังประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งที่นี่ปลูกฝังแนวคิด การใช้ชีวิต กลายเป็นความผูกพัน และเมื่อเขาตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง “บอสส์” จึงเลือกธุรกิจของชาวญี่ปุ่นเป็นตัวนำ
“บอสส์” เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อ (นายสุระชัย ทวีแสงสกุลไทย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี) เป็นเหมือนไอดอลในการทำงาน และลูกทุกคนก็เลือกที่จะเดินบนเส้นทางนี้ เห็นได้จากพี่ชาย ที่เลือกไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ส่วนน้องสาวก็เลือกไปอังกฤษ ตัวเขาเองจึงเลือกที่จะไปญี่ปุ่น แม้วันนั้นเขาจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้น้อยมาก เท่ากับว่าไปเริ่มต้นที่ 0
แต่ด้วยระยะเวลาไม่นาน เขาก็เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาได้เป็นอย่างดี วิถีชีวิตที่โน้นทำให้เขามีวินัย มีความพยายาม และทำให้รู้จักวางแผนชีวิต
“จริงๆ ผมเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบทำกับข้าว อาจเพราะเป็นลูกแม่ ทำให้ชอบทำอะไรแบบที่แม่ทำ”
ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น เพราะคุณแม่เป็นผู้คุมบัญชี การเงินของธุรกิจครอบครัว ทำให้บอสส์ได้เรื่องของความละเอียดรอบคอบติดมาด้วย
ครอบครัวเราเป็นนักชิมตัวยง ผมไปมาแล้วเกือบทั่วโลก ที่ไหนอะไรอร่อย ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ หมู่เกาะต่างๆ เมื่อไปถึงอะไรอร่อยก็ต้องไปชิม รวมถึงประเทศญี่ปุ่น
ที่แม้เขาจะสำเร็จการศึกษามาหลายปี จนกลับมารับหน้าที่ดูแลด้านบริการหลังการขายรถฮีโน่ให้
กับครอบครัว แต่เขาและครอบครัวก็ยังเลือกที่จะไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสมํ่าเสมอ
และที่นี่นี่เองที่ทำให้เขาได้พบกับ “คารายามะ” ร้านไก่ทอดต้นตำรับดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปี และวันนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวและผู้ที่ได้ลิ้มลอง
“บอสส์” บอกว่า เขาไม่ได้เป็นแค่นักชิม เพราะถ้าเป็นนักชิมก็อาจจะชิมแล้วผ่านไป แต่เขามองเห็นโอกาส วันนี้เขาจึงก้าวเข้ามาเป็น “นักธุรกิจ” เขาตัดสินใจ เขียนจดหมายส่งไปยังเจ้าของเพื่อติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์มาเปิดให้บริการในเมืองไทย
เพราะความได้เปรียบด้านภาษา และความคุ้นเคยในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ทำให้เขาได้รับการยอมรับและตอบรับร่วมเป็นพันธมิตรภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แม้จะมีผู้สนใจติดต่อเข้าไปหลายราย แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาหมด ความสำเร็จเบื้องต้นทำให้เส้นทางการก้าวเดินบนโลกธุรกิจของเราฉายแสงที่ดี
“บอสส์” ต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไปในอีกบทบาทและไม่ได้ไปคนเดียว เขาไปพร้อมน้องสาว “อู้ - ปิยวัลย์ ทวีแสงสกุลไทย” โดย 2 พี่น้อง ในฐานะเจ้าของบริษัทรุ่นใหม่ไฟแรง ต้องไปศึกษาและเรียนรู้วิธีการทำอย่างไรให้ “ไก่ทอด” อร่อย บริหารจัดการร้านอย่างไรให้ “ดูดี” โนว์ฮาวต่างๆ เหล่านี้ถูกถ่ายทอดแบบเต็มที่ ตลอด 1 เดือนเต็ม
“ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น ทุกรายละเอียด ทุกสิ่ง ทุกอย่างต้องมีกฎ มีกติกา มีข้อกำหนด ถ้าบอกว่า กระหลํ่าปลีต้องหนัก 60 กรัมและสูง 8 ซม. ทุกอย่างต้องทำให้ได้ตามที่กำหนด และรวดเร็ว เพราะรู้ว่ามีลูกค้ารอคอยอยู่ อย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ลิ้มชิมรสอาหารของเรา สิ่งที่เขาใช้สอนตัวเอง คือ ทำให้ไว และแก้ปัญหาโดยทำให้เยอะขึ้น”
ที่ญี่ปุ่นเราต้องทำทุกอย่าง ไม่ใช่ในฐานะผู้บริหารหรือเป็นเจ้าของกิจการ เราต้องเข้าครัว ต้องล้างพื้น ต้องทำความสะอาด เก็บกวาดทุกอย่างเช่นเดียวกับพนักงานคนหนึ่ง เราไม่ได้แค่เรียนรู้กรรมวิธีทำ แต่เราเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นหนึ่งในบทเรียนเมื่อต้องก้าวเข้าสู่สนามธุรกิจ
วันนี้ “บอสส์” พร้อมเปิดให้บริการร้านคารายามะ สาขาแรกในเดือนธันวาคมนี้ ที่เซ็นทรัล พระราม 3 ความท้าทายรออยู่ข้างหน้า พร้อมกับบทบันทึกที่จะสร้างประสบการณ์ให้เขาก้าวเดินต่อไปในโลกธุรกิจนี้...
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560