คนมีตังค์ทำอะไรดี คำตอบมีมากมาย อาทิ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซื้อที่ดิน เล่นหุ้น เก็งกำไรบิตคอยน์ หรือลงทุนในStartup
สัปดาห์ก่อนมีโอกาสไปฟังคุณ Julian Hosp ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริษัท TENX บินมาบรรยายเฉพาะกิจในหัวข้อ Cryptocurrency & Blockchain: The Future is now and what you must know today การบรรยายเริ่มตั้งแต่ความหมายของ cryptocurrency ที่กำลังโด่งดัง และเป็นที่จับตามองว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คำถามที่ผู้เข้าสัมมนาคุยกันมากที่สุด อยากรู้มากที่สุดคือ เราควรจะลงทุนในเงินออนไลน์นี้ไหม ผมไม่ทราบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนครับ แต่สิ่งที่ได้รับในการสัมมนาคือ คนมีตังค์มักจะมองหาโอกาสในการลงทุนเสมอ และ Startupเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนครับ
กระแสการลงทุนใน Startup ของคนมีตังค์เกิดขึ้นมานานแล้วโดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง ดารา นักร้องต่างก็ลงทุนในธุรกิจทั้งนั้น อาทิ Justin Bieber ที่เลือกลงทุนในหลากหลายธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับเพลงอย่าง Spotify จนทำให้นิตยสาร Forbes ต้องนำเสนอเรื่องราวการลงทุนของนักร้องหนุ่มรายนี้ขึ้นปกมาแล้ว ดาราไทยที่ลงทุนในธุรกิจก็มีหลายท่าน เช่น คุณชาคริตก็ลงทุนทั้ง ChockyBrownie บราวนี่สติ๊กอบกรอบ รสช็อกโกแลต รวมถึงร้าน KRBB The Boutique Butcher สุดยอดร้านเนื้อเกรดพรีเมียมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาต่างก็ลงทุนในธุรกิจกันมากมายอย่างนักกีฬาที่ทำรายได้สูงที่สุดของโลก (กว่า 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังไม่รวมรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าอีกมากมายทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ แอพพลิเคชัน จนถึงเครื่องออกกำลังกายใบหน้า) อย่าง“คริสเตียโน โรนัลโด้” ได้ลงทุนซื้อดิจิตอลเอเยนซีในโปรตุเกสบ้านเกิดเพื่อสร้างแบรนด์ 7EGEND ผลิตสินค้าไฮเทคต่างๆ รวมทั้งแอพพลิเคชัน เป็นการต่อยอดจากแบรนด์ CR7 ของเขาเองที่ผลิตสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาต่างๆ รวมทั้งเป็นโรงแรมระดับ Boutique ที่เขาใฝ่ฝันมานานอีกด้วย เขามีแผนการเปิดโรงแรมภายใต้ชื่อ CR7 อีก 2แห่งภายในปี 2018
ไ ม่มีใครปฏิเสธว่าโรนัลโด้เป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก และทำรายได้มากที่สุด เมื่อปี 2016 เขาเป็นนักกีฬาคนที่ 3ต่อจาก Michael Jordanและ LeBronJames ที่ได้รับสัญญาแบบ Lifetime Sponsorship จาก Nike ด้วย
สัญญา 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แน่นอนว่า Nike ได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าจาก Social Media ของโรนัลโด้ (Facebook 122 ล้านคน,Instagram 116 ล้านคน และ Twitter 65.5 ล้านคน) คาดว่าสามารถสร้าง PR Value (มูลค่าการประชาสัมพันธ์) ให้กับ Nike ได้สูงถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2016 คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มครับ เขายังบอกอีกว่าเขามีแผนการลงทุนแบบสบายๆ ในอนาคต เพราะมีการเลือกลงทุนในธุรกิจหลากหลายประเภท ก็มีตังค์นี่เนอะ รายได้ขนาดนี้ก็ควรนำไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ เพื่อให้งอกเงยจริงไหมครับ
ในขณะที่แอนดี้ เมอร์เรย์ นักเทนนิสชื่อดัง ก็ได้ลงทุนในStartup เช่นกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาเลือกลงทุนในบริษัทGoodbox ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินแบบ contactless เพื่อบริจาคให้กับโบสถ์หรือองค์กรการกุศลต่างๆ ทั่วอังกฤษ และ บริษัทZoomdoc บริษัทด้านสุขภาพที่สามารถจองใช้บริการ NHS หรือระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ (National Healthcare Service) โดยให้ผู้ใช้สามารถจองเวลากับ GP (General Practitioner) หรือบุคลากรด้านการแพทย์ได้ เมอร์เรยก์ ระจายการลงทนุ ในธรุ กจิ ประเภท Healthtech,Fintech และล่าสุดคือธุรกิจ Charity technology (คำนี้เจ๋งนะครับในไทยยังไม่ค่อยเจอ)
ตัวอย่างบุคลากรชื่อดัง และมีตังค์นี้ทำให้ชาว Startup ที่กำลังจะระดมทุนอาจได้แนวคิดในการหาเงินมากขึ้น ในขณะที่ผู้ที่มีตังค์เย็นๆ สบายๆ ก็อาจได้แนวคิดในการทำให้เงินของท่านงอกเงยมากยิ่งขึ้น หลังจากซื้อนาฬิกาแพงๆ ใส่แล้ว ลองเลือกลงทุนใน Startupดูนะครับ อิอิ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560
