พลิกตำราธุรกิจภิรัชบุรี เรียบง่าย แต่มั่นคงสูง
นานๆที สำหรับแลนด์ลอร์ดอสังหาริมทรัพย์ ผู้มีที่ดินอยู่ในทำเลทองมากมาย อย่าง “ดร.ประสาน ภิรัช บุรี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีฯ จะได้ปรากฏตัวออกสื่อ ล่าสุด เขาได้ออกมาพูดคุยถึงแผนธุรกิจที่กำลังเดินหน้าไปสู่โปรเจ็กต์ใหม่ๆ พร้อมทั้งเปิดมุมมองและแนวคิดการทำธุรกิจที่แตกต่างจนสามารถสร้างอาณาจักรของภิรัชบุรีให้ใหญ่โตและแข็งแกร่ง ทั้งโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า (ออฟฟิศ) ธุรกิจศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และยังพัฒนาทำเลทองย่านสุขุมวิท สร้างทั้งอาคารสำนักงานให้เช่าและห้างค้าปลีกลักชัวรี
“ดร.ประสาน” เล่าว่า เขาจะมองไปข้างหน้า และคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ แล้วลงมือทำ ก่อนที่คนอื่นจะไหวตัว การที่จะได้มาซึ่งแนวคิดใหม่ๆ คือการเดินทางหาความรู้ ศึกษาข้อมูลไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมา เขาเดินทางเยอะมากในต่างประเทศ ไปดูว่าเขาทำอะไรกัน โครงการแบบไหนที่ประสบความสำเร็จ โครงการแบบไหนที่ล้มเหลว อะไรเป็นเทรนด์ แล้วนำมาปรับใช้กับตลาดเมืองไทย
[caption id="attachment_241257" align="aligncenter" width="335"]
ดร.ประสาน ภิรัช บุรี[/caption]
อย่างธุรกิจศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ความคิดริเริ่มก็เกิดจากการมองว่า ตลาดเมืองไทยยังไม่มีศูนย์นิทรรศการขนาดใหญ่ที่ครบวงจร ในขณะที่ความต้องการของตลาดมีสภาพเศรษฐกิจไทยมีการเติบโต บทพิสูจน์ของความสำเร็จในตอนนี้ก็คือ พื้นที่เช่าถูกจับจองเต็มตลอดทั้งปี
หรือโครงการใจกลางเมืองอย่าง ภิรัชบุรี แอดเอ็มควอเทียร์ ขณะนี้มีผู้เช่าเข้ามาอยู่ 98% และเป็นอาคารที่มีการจอง 20% ก่อนที่จะสร้างเสร็จ จากปกติที่ผู้เช่าต้องรอเห็นโครงการเป็นรูปเป็นร่างก่อน ใกล้เสร็จแล้วจึงจะมีคนมาเซ็นสัญญาเช่า
มาถึงยุคปัจจุบันที่รัฐบาลส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเกิดขึ้นมากมาย คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการอาคารใหญ่โตใจกลางเมืองเป็นสำนักงาน ซีอีโอคนนี้จึงผุดโครงการที่เป็น Low Rise ย่านสาทร เป็นสำนักงาน 4 ชั้น มีคอมมิวนิตีหลังอาคารตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
และเขายังทำโครงการซัมเมอร์ ลาซาล เป็นออฟฟิศแคมปัส สูงประมาณ 3 ชั้น ผู้เช่าแต่ละบริษัทสามารถตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ อาคารลักษณะนี้เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ภิรัชบุรีกำลังทดลองทำ ด้วยราคาต้นทุนที่ตํ่ากว่าอาคารขนาดใหญ่ สร้างเสร็จเร็ว สนองตอบนักธุรกิจรุ่นใหม่
การทำธุรกิจวิสัยทัศน์ของ “ดร.ประสาน” คือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และสร้างความยั่งยืน ทั้งผู้บริหาร ผู้เช่า
[caption id="attachment_241255" align="aligncenter" width="335"]
ดร.ประสาน ภิรัช บุรี[/caption]
“ผมจะไม่เข้าไปทำธุรกิจอะไรที่ฉาบฉวย แฟชั่น เพราะมันไม่ยั่งยืน เราสร้างความมั่นใจ ไม่ใช่แค่นักจัดสรรแล้วหายไป เราดูแลลูกค้าจากต้นจนจบ ให้ความมั่นใจกับลูกค้า”
“ดร.ประสาน” ยกตัวอย่างอาคารสูง 24 ชั้นย่านสุขุมวิท ที่เขาออกแบบที่จอดรถให้อย่างพอเพียงด้วยสัดส่วน 30 ตารางเมตรต่อที่จอดรถ 1 คัน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดพื้นที่ 60 ตารางเมตรต่อที่จอดรถ 1 คันถึงเท่าตัว เป็นการมองเห็นสภาพในอนาคตที่ย่านสุขุมวิท ถือเป็นทำเลทองที่ต้องการที่จอดรถจำนวนมาก
จากประสบการณ์กว่า 30 ปี ซีอีโอคนนี้ พัฒนาธุรกิจด้วยแนวคิดใหม่ๆ เสมอ เขาบอกเลยว่าเมื่อไปถึงเป้าที่กำหนดไว้แล้ว เขาจะขยับเป้าใหม่ไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ความสามารถในการประเมินทำเล มีการวิจัยก่อนว่าตรงนี้จะเป็นอย่างไร
“แนวทางบริหารจัดการของกลุ่มภิรัชบุรี เน้นความเรียบง่าย แต่มั่นคงสูง Low Profile High Profit...ผมทำธุรกิจ จะสอนลูกว่า Connection Connection Connection ทำธุรกิจไม่รู้จักผู้ใหญ่ก็ไปไม่รอด”
คอนเนกชันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารคนนี้ให้ความสำคัญมาก เพราะนั่นคือหัวใจที่ทำให้การประสานงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
“ดร.ประสาน” เน้นยํ้าอีกว่า วิธีการพัฒนาธุรกิจ ไมใช่คุณอยากทำอะไร แต่ต้องดูว่าลูกค้าเขาต้องการอะไร การทำธุรกิจต้องมั่นคงและยั่งยืน และสำหรับยุคนี้ต้องผสมผสาน ถ้าเกิดนิทรรศการมาก ที่พักอาศัยก็ต้องการมาก แต่ถ้าตก ก็ตกทั้ง 2 อย่าง เราเลยต้องหาอย่างอื่นมาผสมผสาน การทำโครงการ แบบ MIXED-USE จึงเป็นแนวทางที่ภิรัชบุรีกำลังก้าวต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560
“ดร.ประสาน” เล่าว่า เขาจะมองไปข้างหน้า และคิดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ แล้วลงมือทำ ก่อนที่คนอื่นจะไหวตัว การที่จะได้มาซึ่งแนวคิดใหม่ๆ คือการเดินทางหาความรู้ ศึกษาข้อมูลไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมา เขาเดินทางเยอะมากในต่างประเทศ ไปดูว่าเขาทำอะไรกัน โครงการแบบไหนที่ประสบความสำเร็จ โครงการแบบไหนที่ล้มเหลว อะไรเป็นเทรนด์ แล้วนำมาปรับใช้กับตลาดเมืองไทย
[caption id="attachment_241257" align="aligncenter" width="335"]
อย่างธุรกิจศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ความคิดริเริ่มก็เกิดจากการมองว่า ตลาดเมืองไทยยังไม่มีศูนย์นิทรรศการขนาดใหญ่ที่ครบวงจร ในขณะที่ความต้องการของตลาดมีสภาพเศรษฐกิจไทยมีการเติบโต บทพิสูจน์ของความสำเร็จในตอนนี้ก็คือ พื้นที่เช่าถูกจับจองเต็มตลอดทั้งปี
หรือโครงการใจกลางเมืองอย่าง ภิรัชบุรี แอดเอ็มควอเทียร์ ขณะนี้มีผู้เช่าเข้ามาอยู่ 98% และเป็นอาคารที่มีการจอง 20% ก่อนที่จะสร้างเสร็จ จากปกติที่ผู้เช่าต้องรอเห็นโครงการเป็นรูปเป็นร่างก่อน ใกล้เสร็จแล้วจึงจะมีคนมาเซ็นสัญญาเช่า
มาถึงยุคปัจจุบันที่รัฐบาลส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเกิดขึ้นมากมาย คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการอาคารใหญ่โตใจกลางเมืองเป็นสำนักงาน ซีอีโอคนนี้จึงผุดโครงการที่เป็น Low Rise ย่านสาทร เป็นสำนักงาน 4 ชั้น มีคอมมิวนิตีหลังอาคารตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
และเขายังทำโครงการซัมเมอร์ ลาซาล เป็นออฟฟิศแคมปัส สูงประมาณ 3 ชั้น ผู้เช่าแต่ละบริษัทสามารถตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้ อาคารลักษณะนี้เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ภิรัชบุรีกำลังทดลองทำ ด้วยราคาต้นทุนที่ตํ่ากว่าอาคารขนาดใหญ่ สร้างเสร็จเร็ว สนองตอบนักธุรกิจรุ่นใหม่
การทำธุรกิจวิสัยทัศน์ของ “ดร.ประสาน” คือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และสร้างความยั่งยืน ทั้งผู้บริหาร ผู้เช่า
[caption id="attachment_241255" align="aligncenter" width="335"]
“ผมจะไม่เข้าไปทำธุรกิจอะไรที่ฉาบฉวย แฟชั่น เพราะมันไม่ยั่งยืน เราสร้างความมั่นใจ ไม่ใช่แค่นักจัดสรรแล้วหายไป เราดูแลลูกค้าจากต้นจนจบ ให้ความมั่นใจกับลูกค้า”
“ดร.ประสาน” ยกตัวอย่างอาคารสูง 24 ชั้นย่านสุขุมวิท ที่เขาออกแบบที่จอดรถให้อย่างพอเพียงด้วยสัดส่วน 30 ตารางเมตรต่อที่จอดรถ 1 คัน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดพื้นที่ 60 ตารางเมตรต่อที่จอดรถ 1 คันถึงเท่าตัว เป็นการมองเห็นสภาพในอนาคตที่ย่านสุขุมวิท ถือเป็นทำเลทองที่ต้องการที่จอดรถจำนวนมาก
จากประสบการณ์กว่า 30 ปี ซีอีโอคนนี้ พัฒนาธุรกิจด้วยแนวคิดใหม่ๆ เสมอ เขาบอกเลยว่าเมื่อไปถึงเป้าที่กำหนดไว้แล้ว เขาจะขยับเป้าใหม่ไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ความสามารถในการประเมินทำเล มีการวิจัยก่อนว่าตรงนี้จะเป็นอย่างไร
“แนวทางบริหารจัดการของกลุ่มภิรัชบุรี เน้นความเรียบง่าย แต่มั่นคงสูง Low Profile High Profit...ผมทำธุรกิจ จะสอนลูกว่า Connection Connection Connection ทำธุรกิจไม่รู้จักผู้ใหญ่ก็ไปไม่รอด”
คอนเนกชันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารคนนี้ให้ความสำคัญมาก เพราะนั่นคือหัวใจที่ทำให้การประสานงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
“ดร.ประสาน” เน้นยํ้าอีกว่า วิธีการพัฒนาธุรกิจ ไมใช่คุณอยากทำอะไร แต่ต้องดูว่าลูกค้าเขาต้องการอะไร การทำธุรกิจต้องมั่นคงและยั่งยืน และสำหรับยุคนี้ต้องผสมผสาน ถ้าเกิดนิทรรศการมาก ที่พักอาศัยก็ต้องการมาก แต่ถ้าตก ก็ตกทั้ง 2 อย่าง เราเลยต้องหาอย่างอื่นมาผสมผสาน การทำโครงการ แบบ MIXED-USE จึงเป็นแนวทางที่ภิรัชบุรีกำลังก้าวต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,322 วันที่ 14 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560
