ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี59สดใส รับอานิสงส์เมกะโปรเจ็กต์/บอลยูโรฯ

02 ม.ค. 2559 | 03:00 น.
แม้ภาพรวมธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2558 จะเติบโตเพียง 2-3% ด้วยหลากหลายปัจจัยลบ จากทั้งสภาวะเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อหดหาย รวมไปถึงการเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของตลาดทีวี ที่ทำให้ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในการเลือกซื้อเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2559 จะดูสดใสขึ้น จากปัจจัยบวกต่างๆ ที่รัฐบาลพยายามอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบผ่านโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ เพื่อกระจายรายได้และฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ อันจะเกิดผลดีต่อกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความต้องการเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ไมโครเวฟ เป็นต้น

[caption id="attachment_24149" align="aligncenter" width="503"] เครื่องเช่าไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า[/caption]

3 ปัจจัยหนุนตลาดปี 59 โต

นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า"แอลจี" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2559 มองว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าปี 2558 โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตราว 10% ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ทั้งปีมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มเป็นเท่าตัว โดยปัจจัยที่จะผลักดันตลาดให้เติบโตในปี 2559 ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง จากผลพวงของกระแสมหกรรมกีฬาระดับโลกที่จะเข้ามาทั้งกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 31 ที่ประเทศบราซิล ในช่วงเดือนสิงหาคม และการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 (ยูโร 2016) ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม 2559 ที่จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดทีวีเมืองไทยอีกปี

2. การลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมาในช่วงนี้ ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อดีขึ้นในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในระดับแมสที่ในปี 2558 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในระดับกลาง-ล่างหรือในตลาดต่างจังหวัดไม่มีการเติบโต ซึ่งเป็นจผลพวงจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ขณะที่กลุ่มกลาง-บน เป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อและประคองให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ติดลบในปี 2558 จึงเชื่อว่าจากมาตรการกระตุ้นจะช่วยให้กำลังซื้อกลุ่มกลาง-ล่างกลับมาดีอีกครั้ง

3. การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มบ้านและคอนโดมิเนียม ทั้งรายใหม่ที่จะเข้ามาซื้อ และรายเดิมจากปี 2558 ที่เริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและเริ่มตกแต่ง โดยมองว่าจากปัจจัยบวกที่คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ที่จะมีการเติบโตที่ 20% ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก โดยประชาชนจะมองหาสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นลำดับแรก ในการใช้งานและตกแต่งบ้านใหม่ และคาดการณ์ว่าสามารถเห็นความชัดเจนด้านการเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐได้ในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ (ปัจจุบัน-เม.ย.59)

[caption id="attachment_24151" align="aligncenter" width="503"] เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า[/caption]

ปรับทัพสู้ศึกตลาดทีวีรับบอลยูโร

ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทเองเริ่มมีการเปิดตัวสินค้าใหม่และปรับกลยุทธ์ทางการตลาดรองรับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 เป็นต้นไป โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มสินค้าทีวีที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในปี 2559 จากผลพวงของกระแสมหกรรมกีฬาระดับโลกที่จะเข้ามา ทั้งกีฬาโอลิมปิกและการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งบริษัทได้มีการเปิดตัวทีวี OLED TV เทคโนโลยีล่าสุดของวงการทีวีและของแอลจี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 4K เข้ามาเป็นจุดแข็งในการรุกตลาดตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2558 เป็นต้นไป

โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของแอลจีในปี 2559 คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ที่ 5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 10% ทั้งนี้การลดเป้าการเติบโตดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เนื่องจากบริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่าตลาด เมื่อเทียบกับปัจจัยลบที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมั่นใจว่าปี 2559 จะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

อานิสงส์ 4จี ดันตลาดสินค้าไอทีพุ่ง

ด้านนายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า พาวเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2558 จะมีอัตราการเติบโตที่ 2-3% ผลพวงหลักมาจากกลุ่มสินค้าทีวีที่ติดลบ 10% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเข้าถึงการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านช่องทางอื่นได้เพิ่มขึ้น ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเลต โน้ตบุ๊ก เป็นต้น ซึ่งแผนงานในปี 2559 ของพาวเวอร์มอลล์จะให้ความสำคัญกับการสร้างการเข้าถึงสินค้าของพาวเวอร์มอลล์ไปยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 3D มาเป็น 4D หรือจากเดิมบริหารสินค้าแบบ 3 มิติมาเป็น 4 มิติ คือ 1.ใช้ลูกค้าเป็นตัวตั้งในการคัดสรรสินค้า 2. มีสินค้าให้เลือกในแนวราบ และ 3. มีสินค้าให้เลือกในแนวลึก ซึ่งปี 2559 จะเพิ่ม 4 ประสบการณ์ในการใช้สินค้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเครื่องปรับอากาศ จะมุ่งให้พาวเวอร์มอลล์เป็นเดติเนชันของมอลล์เครื่องใช้ไฟฟ้า

สำหรับสินค้าเรือธงในปี 2559 มองว่า กลุ่มสินค้าไอที โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือจะเป็นกลุ่มที่มาแรงและคาดว่าจะมีการเติบโตที่ 20% จากปี 2558 ที่มีการเติบโต 16% ทั้งนี้เป็นผลจากการเข้ามาของเทคโนโลยี 4G ที่จะผลักดันให้ประชาชนเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือมาใช้เครื่องใหม่ที่สามารถรองรับเทคโนโลยี 4G ได้

อย่างไรก็ตาม จากสัญญาณที่เริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2558 นี้ไปจนถึงต้นปี 2559 บวกกับมีอีเวนต์ใหญ่ 2 รายการ คือ ฟุตบอลยูโร และโอลิมปิก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ากลับมาเติบโตได้ถึง 5% โดยสามารถแยกการเติบโตได้ ดังนี้ 1.สมาร์ทโฟนโต 20% 2.เครื่องปรับอากาศโต 20% 3.คอมพิวเตอร์โต 10% และทีวีจะกลับขึ้นมาทรงตัวหรืออาจจะเติบโตได้เพียงเล็กน้อย 1-3%

[caption id="attachment_24152" align="aligncenter" width="503"] เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า[/caption]

เทรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่มาแรง

ด้านนายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการ บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ "ฮิตาชิ" กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยปี 2559 คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโต 5-10% ดีกว่าปี 2558 หลังจากที่ตลาดลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ที่คาดว่าจะมีการเติบโตดีกว่าปี 2558

ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ของค่ายผู้ผลิตต่างๆ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ในเชิงมูลค่ามีการเติบโตขึ้น เนื่องจากราคาต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น แต่ในเชิงปริมาณจะลดลง ขณะที่การแข่งขันของตลาดยังคงรุนแรง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและราคาขาย

"ที่ผ่านมาพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องซักผ้า จากเดิมที่เคยใช้ในขนาด 10-12 กิโลกรัม ก็หันมาใช้ในขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ 15-16 กิโลกรัมขึ้นไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หรือซักผ้าเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำให้ต้องใช้เครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น"

ทั้งนี้ จากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ได้เล็งเห็นโอกาสของตลาด ที่ผู้บริโภคความต้องการเครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 15-16 กิโลกรัมที่ปัจจุบันมีการเติบโตถึง 36% ของตลาดรวมเครื่องซักผ้า มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2558 ลดลง 5% เป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อว่าแนวโน้มตลาดเครื่องซักผ้าปี 2559 จะมีการเติบโตประมาณ 5% มาจากการพัฒนานวัตกรรมสินค้าออกวางจำหน่าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,118
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558 - 2 มกราคม พ.ศ. 2559