เงินบาททรงตัวในกรอบแคบๆ ที่ระดับประมาณ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะทยอยอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เงินบาทขยับอ่อนค่าลง หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ทยอยได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด (อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน) ตลอดจนความหวังต่อมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่สภาคองเกรสสามารถผ่านร่างกฎหมายต่ออายุการจัดสรรเงินทุนเป็นการชั่วคราวให้แก่หน่วยงานรัฐบาล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 22 ธ.ค. นี้
สำหรับในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 32.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (1 ธ.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (11-15 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยและเศรษฐกิจปีหน้าของเฟด (12-13 ธ.ค.) ตลอดจนสัญญาณเกี่ยวกับการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนระหว่างประเทศเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI ขั้นต้นประจำเดือนธ.ค. ของประเทศชั้นนำหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย