ลุยซื้อกองหุ้น พ.ย.2 หมื่นล้าน ลุ้น SET 1,800

11 ธ.ค. 2560 | 04:56 น.
นักลงทุนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย คาดหุ้นปี 61 วิ่งทะลุ 1,800 จุด ดึงเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นไทย-LTF-RMF แค่พฤศจิกายนทะลัก 2.2 หมื่นล้าน ไม่หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคม

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)ฯ พบเงินไหลเข้าสุทธิกองทุนหุ้นไทยในเดือนพฤศจิกายน 2560 สูงถึง 11,062 ล้านบาท นักลงทุนเข้ามาต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม ที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดในปีนี้จำนวน 11,132 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินไหลเข้าสุทธิกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 7,234 ล้านบาท และไหลเข้าสุทธิกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จำนวน 4,390 ล้านบาท ส่งผลให้กองทุนมีเงินเข้าซื้อหุ้นในตลาดกว่า 22,686 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ รวมเงินลงทุนในกองทุน LTF ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนมีเงินไหลออกสุทธิลดเหลือ 11,289 ล้านบาท เฉพาะกองทุน RMF หุ้นไทยมียอดซื้อสุทธิเพิ่มเป็น 5,978 ล้านบาท ภาพการลง ทุนโดยรวม นักลงทุนสถาบันไทย 80,892 ล้านบาท นักลง ทุนต่างชาติขายสุทธิ 23,447.08 ล้านบาทและนักลงทุนไทยขายถึง 67,756.62 ล้านบาท หลังจากดัชนีหุ้นทะยานขึ้นต่อเนื่องมายืนบริเวณ 1,700 จุด

สำหรับเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิในกองทุนหุ้นไทยในช่วง 11 เดือน ไม่รวม LTF-RMF มีมูลค่า 41,765 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินไหลเข้าในกลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) 24,584 ล้านบาท และกลุ่มกองทุนหุ้นขนาด กลางและเล็ก (Equity Small/Mid Cap) 17,181 ล้านบาท

ส่วนหนึ่งที่เงินไหลเข้ามากในปีนี้ส่วนใหญ่มาจากการออกกองทุนใหม่ในกลุ่มหุ้น Large Cap จำนวน 33 กองทุน มูลค่า 22,241.71 ล้านบาท และออกกองทุนใหม่ในกลุ่มหุ้น Mid Small Cap ปีนี้ 2 กองทุน มูลค่า 872.06 ล้านบาท โดยเฉพาะการออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีธรรมาภิบาลซึ่งทยอยเปิดขายในเดือนกันยายน-ตุลาคมที่ผ่านมามียอดเงินลงทุนกว่า 3,400 ล้านบาท

ด้านผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนหุ้น Large Cap ไม่รวม LTF- RMF อยู่ที่ 15.36% ส่วนกองทุนหุ้น Mid Small Cap ไม่รวม LTF RMF ผลตอบแทนเฉลี่ย 13.33%

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนทยอยเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันถือเงินสดน้อยมาก โดยมองหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศยังน่าสนใจและเป็นธีมการลงทุนในปี 2561 ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งแนวโน้มดีต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

[caption id="attachment_177632" align="aligncenter" width="503"] นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต[/caption]

“กลยุทธ์การลงทุนยังต้องเน้นเลือกหุ้นรายตัว เนื่องจากราคาปรับขึ้นมามาก ขณะที่หุ้น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธนาคาร พลังงานและสื่อสารนั้น มองว่ากลุ่มธนาคารน่าสนใจ ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจฟื้น ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ส่วนราคานํ้ามันน่าจะทรงตัว ส่วนสื่อสารยังมีการประมูลคลื่นอยู่ในช่วงลงทุน” นางสาวธิดาศิริ กล่าว

ผู้จัดการกองทุนบลจ.รายหนึ่ง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นปี 2561 ยังมีทิศทางที่ดี จากเศรษฐกิจฟื้นตัวส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นแนวโน้มตลาดหุ้น แม้ดัชนีจะปรับตัวขึ้นมามากในปีนี้ แต่บลจ.ส่วนใหญ่เชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับกว่า 1,800 จุดได้ อีกทั้งหากมีการเลือกตั้งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นคึกคัก

แต่ระหว่างทางดัชนีคงผันผวน ควรเน้นหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดีและราคาไม่แพงมาก ขณะเดียวกันพอร์ตกองทุนส่วนใหญ่เข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่มาก เพราะมองโอกาสที่หุ้นจะลงแรงๆ มีไม่มาก จึงอาจเลือกสลับหุ้นบางตัว ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มองว่าตลาดรับรู้กันอยู่แล้ว

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ฯ กล่าวว่า กองทุนเน้นคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มขนาดกลางและเล็ก ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาโอกาสลงทุนเพิ่มในหุ้นรายตัวทั้งในกลุ่มพลังงาน กลุ่มที่ เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดี รวมถึงกลุ่มโรงพยาบาลที่มองว่าอยู่ในช่วงของการเก็บเกี่ยวกำไรหลังผ่านช่วงของการลงทุนไปแล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว