‘คารายามะ’ท้ารบตลาดไก่ทอด

14 ธ.ค. 2560 | 06:10 น.
อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด ท้ารบตลาดไก่ทอดคว้าลิขสิทธิ์ “คารายามะ” แบรนด์ดังจากแดนซามูไร เปิดให้บริการในไทย ประเดิมสาขาแรกเซ็นทรัล พระราม 3 ในธันวาคมนี้ ก่อนขยายเพิ่มอีก 2 แห่งในปีหน้า

นายธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้บริหาร ร้านไก่ทอด ภายใต้แบรนด์ “คารายามะ” (Karayama) จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ลงนามสัญญารับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ร้านไก่ทอดคารายามะ จากบริษัท อาร์กแลนด์ เซอร์วิส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (Arcland service Holdings Co.,Ltd.) ประเทศญี่ปุ่น เมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลา สัญญา 5 ปี และพร้อมจะเปิดให้ บริการสาขาแรกที่เซ็นทรัล พระราม 3 ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้

[caption id="attachment_240294" align="aligncenter" width="503"] ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด ธีรวัฒน์ ทวีแสงสกุลไทย กรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด แอนด์ เบเวอเรจ โฮลดิ้ง จำกัด[/caption]

โดยบริษัท อาร์กแลนด์ฯ เป็นบริษัทของนักธุรกิจญี่ปุ่นรายใหญ่ ที่ดำเนินธุรกิจขายอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้าน รวมถึงธุรกิจอาหาร อาทิ ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า ร้านทงคัตสึ แบรนด์ “คัตสึยะ” (Katsuya) ซึ่งเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ของกลุ่มเซ็นทรัลได้สิทธิ์แฟรนไชส์และนำเข้ามาเปิดให้บริการในเมืองไทยเมื่อปี 2557

ขณะที่คารายามะเป็นแบรนด์ไก่ทอดสัญชาติญี่ปุ่นแท้ เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี ก่อนที่อาร์กแลนด์ฯ จะเข้าไปซื้อกิจการและโนว์ฮาวมาลงทุนเมื่อ 2-3 ปีก่อน ปัจจุบันมีสาขากว่า 30 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น และยังเปิดให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 4 ที่อยู่นอกญี่ปุ่น

“ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่นิยมบริโภคไก่ ขณะที่มีผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งน้อยราย และด้วยจุดเด่นของคารายามะ ทำให้บริษัทมองเห็นเป็นโอกาสที่จะสามารถแทรกตัวเข้าตลาด และขยายสาขาด้วยจุดเด่นที่เป็นไก่ทอดรสชาติญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี แตกต่างจากไก่ทอดเกาหลี ไก่ทอดยุโรป รวมถึงไก่ทอดพื้นบ้านของไทย ที่มีจำหน่ายตามตลาดทั่วไป”

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 จุดเด่นของคารายามะ คือ เป็นไก่คาราเกะที่คนไทยคุ้นเคย ผนวกกับรสชาติที่หลากหลายจากการปรุงแต่งจากซอสต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็นซอสต้นตำรับ, ซอสเกลือ, ซอสเปรี้ยว หวาน ฯลฯ พร้อมเสิร์ฟเป็นอาหารเซต ร่วมกับข้าว และซุปให้เลือกกว่า 10 เมนู อาทิ ข้าวหน้าไก่ทอดราดไข่ ฯลฯ ในราคาเริ่มต้น 100-200 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คน ไทยทุกระดับสามารถสัมผัสได้

ด้านกลยุทธ์การตลาดจะเน้นการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยเริ่มจากเฟซบุ๊ก และไลน์ นำเสนอเรื่องราว ความเป็นมาของแบรนด์คารายามะ พร้อมกับการทำโปรโมชันเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาทดลองทาน นอกจากนี้จะเพิ่มช่องทางสร้างแบรนด์ให้หลากหลายทั้งเว็บไซต์, YoutubeChannel และอื่นๆ

อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งในปีหน้า โดยสาขาที่ 2 จะเปิดให้บริการที่สยามสแควร์วัน ในเดือนกุมภาพันธ์ และอีก 1 สาขาในครึ่งปีหลัง ใช้งบลงทุน เฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสาขา มีพื้นที่ราว 150 ตร.ม. เน้นการให้บริการรับประทานในร้านและเทกโฮม โดยแผนการลงทุนใน 5 ปีแรกจะเน้นการขยายสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก ก่อนที่จะขยายไปยังหัวเมืองต่างๆ ทั้งภูเก็ต พัทยา ขอนแก่น รวมทั้งการนำเสนอโมเดลใหม่ๆ ทั้งในรูปแบบไดรฟ์ธรู และคีออส ในฟูดคอร์ต และ ร้านในรูปแบบสแตนด์อะโลน ซึ่งโมเดลเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว