TABBA ชงรัฐ คุมนํ้าเมาตรงจุด

14 ธ.ค. 2560 | 04:40 น.
ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยพบว่าในปี 2558 ตัวเลขรวม 2,864 ล้านลิตร เติบโต 0.6% ขณะที่ในปี 2559 มีการบริโภค 3,088 ล้านลิตร เติบโต 7.8%นอกจากนี้แนวโน้มการดื่มของคนไทยที่มีอายุมากกว่า15 ปี ก็ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551ที่มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี นั้นสามารถใช้ได้ผลในสังคมไทยจริงหรือไม่ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แท้จริงแล้วคืออะไร

สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBA จึงจัดสัมมนาขึ้นในหัวข้อ “แอลกอฮอล์กับสังคมไทยคุมอย่างไรให้ครอบคลุม” ขึ้น ด้วยหวังให้ภาครัฐและเอกชนควรหารือร่วมกันเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายในบางประเด็นทั้งในแง่ของการปรับปรุงกฎหมายให้มีความเป็นสากล แก้ไขปัญหาการตีความที่คลุมเครือ ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมรวมไปถึงส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของแอลกอฮอล์กับประชาชนมากยิ่งขึ้น

MP34-3321-A ++พ.ร.บ.ได้ผลจริงหรือ?
“ธนากร คุปตจิตต์” นายก TABBA กล่าวนำเรื่องถึงแนวทางในการสัมมนาครั้งนี้ว่า พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ยังมีบางประเด็นที่ภาครัฐและเอกชนควรหารือร่วมกันเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย ที่ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมเรื่อยมาว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย ในฐานะตัวแทนผู้ผลิตที่มีพันธกิจส่งเสริมการทำการตลาดและสื่อสารเกี่ยวกับธุรกิจแอลกอฮอล์อย่างมีจรรยาบรรณ และรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งหวังที่จะร่วมมือกับภาครัฐและภาคประชาชนในการบังคับใช้ตัวบทกฎหมายอย่างเป็นธรรมและตอบโจทย์ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการดื่มอย่างเป็นอันตราย หรือ Harmful Use of Alcohol ในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืนอีกทั้งส่งเสริมลดอัตราการดื่มที่เป็นอันตรายทั่วโลก10% ภายในปี 2568 ตามกรอบขององค์การอนามัยโลก (WHO)

บาร์ไลน์ฐาน ++หาความชัดเจน‘มาตรา 32’
โดยเฉพาะพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาตรา 32 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง หรือโดยอ้อมนั้นยังมีความคลุมเครือในบางประเด็น และพึ่งพิงการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงานมากเกินไป จึงขาดแนวทางในการปฏิบัติที่แน่นอน ทั้งยังเอื้อให้เกิดผลประโยชน์ที่อาจสร้างแรงจูงใจทางอ้อมให้เกิดการตีความอย่างไม่เป็นธรรม อันเนื่องมาจากเงินสินบนรางวัล ในขณะเดียวกันภาคประชาชนได้ให้ความเห็นว่า พ.ร.บ. ดังกล่าวมีเนื้อหาสาระที่ดี แต่ขาดความชัดเจนในการปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างความสับสนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ และส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อภาคธุรกิจและท่องเที่ยว ไม่ว่าจะในเรื่องของวัน ช่วงเวลาการขาย โดยเฉพาะในเรื่องของความเข้าใจตรงกันในแง่ของการโฆษณา ข้อความอวดอ้างสรรพคุณ ข้อความที่มีภาพนักกีฬา ข้อความหรือภาพที่มีตราศิลปิน นักร้อง นักแสดง หรือการโฆษณาชักจูงเป็นต้น

สำหรับข้อเสนอแนะในครั้งนี้ที่มีต่อภาครัฐประกอบไปด้วย 1.การปรับปรุงให้กฎหมายมีความทันสมัยสอดคล้องกับหลักสากล 2.การตีความกฎหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย 3.การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม 4.บูรณาการด้านการศึกษาเกี่ยวกับโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

[caption id="attachment_196706" align="aligncenter" width="335"] ธนากร คุปตจิตต์ ธนากร คุปตจิตต์[/caption]

++แนะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
“ธนากร” ยังให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์แบบมีความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนในสังคมไทยว่า การแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืนมองว่าควรจะมีการปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เยาวชนมีสำนึกรับผิดชอบที่ดีต่อสังคม รู้จักโทษและข้อเสียของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งควรจะมีการบรรจุเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอน โดยแนวทางการผลักดันเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนมองว่าประกอบไปด้วย2ส่วนหลัก นั่นคือ1.การบรรจุเข้าไปในหลักสูตรการศึกษา เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนรู้เท่าทันแอลกอฮอล์ 2.การหาคนกลางในการหาแนวทางปฏิบัติร่วมกัน

ท้ายที่สุดมองว่าหากมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการแก้ไขให้ชัดเจนและตรงจุด ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งการสนับสนุนให้แก้ปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างยั่งยืนแล้วนอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนร่วมกันแล้ว ยังจะช่วยแก้ไขและลดทอนปัญหานักดื่มก่อนวัย อุบัติเหตุบนท้องถนน และปัญหาสังคมที่เกิดจากแอลกอฮอล์อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว