ตลาดฟิล์มแข่งนวัตกรรม น้องใหม่ชิงส่วนแบ่ง1.6 พันล้าน

14 ธ.ค. 2560 | 06:15 น.
ตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์คึกคัก “จอห์นสัน” ส่งรุ่น เซรามิก ไออาร์ ซีรีส์ ชูจุดแข็งเทคโนโลยี TiN รุ่นเดียวของโลก ด้านลามิน่า มั่นใจคุณภาพสินค้า หลังโรงงานผู้ผลิตได้รับมาตรฐานฟิล์มประหยัดพลังงานจากอเมริกา ขณะที่น้องใหม่ “ไมดาส”เตรียมรุกโซเชียลมีเดีย นำเสนอสินค้า 3 หมวดหลักและขยายดีลเลอร์

ภาพรวมตลาดฟิลม์กรองแสงในประเทศไทยที่มีมูลค่าราว 1.4 -1.6 พันล้านบาท มีผู้เล่นทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ตลาดบนลงล่าง ราคาหลักพันไปจนถึงหมื่น ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดนี้ดุเดือดไม่แตกต่างจากตลาดรถยนต์ใหม่ ซึ่งกลยุทธ์หลักที่แต่ละแบรนด์งัดออกมาสู้ก็หนีไม่พ้น การเปิดสินค้าใหม่-ราคาพิเศษ-ของแถมต่างๆ

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 “เราเพิ่งเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ฟิล์มเซรามิ ไออาร์ (IR) บริสุทธิ์ 100% สำหรับเจาะกลุ่มพรีเมียม โดยจุดเด่นของสินค้าใหม่คือเทคโน โลยีเซรามิกบริสุทธิ์ 100% และการเปิดตัวในครั้งนี้นับเป็นฟิล์มรุ่นเดียวของโลกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า TiN หรือ ไทเทเนียม ไนไตรด์ (Titanium Nitride) ลิขสิทธิ์เฉพาะของจอห์นสัน ฟิล์ม ที่ไม่เคยมีฟิล์มกรองแสงรุ่นใดในโลกทำได้มาก่อน” นายปิยะ สุนสะธรรม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์มาร์ค บิสซิเนส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์จอห์นสัน จากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวและว่า

สำหรับฟิล์มกรองแสงจอห์นสัน เซรามิก ไออาร์ ซีรีส์มีคุณสมบัติคือ กันความร้อน เนื้อฟิล์มเย็น เงาน้อย และระบายความร้อนได้ดีกว่าฟิล์มเซรามิกทั่วไป 4 เท่า เนื้อฟิล์มเหนียว ทนทาน มีอายุการใช้งานนานด้วยชั้นเคลือบแข็งพิเศษ CSTTM ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ทางโรงงาน และผ่านสัญญาณดิจิตอลได้ทุกชนิด โดยมีให้เลือก 8 รุ่นทั้งเข้มและใส ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดตั้งแต่ 31-61 % ซึ่งทั้งหมดสามารถกันรังสียูวีได้ถึง 99 % และมีราคาประมาณ 21,900 - 32,900 บาทต่อคัน

[caption id="attachment_59807" align="aligncenter" width="350"] จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด จันทร์นภา สายสมร
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด[/caption]

ขณะที่ค่ายลามิน่า นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์หรือจุดขายที่จะนำเสนอคือการสื่อสารให้ลูกค้าได้รับรู้ว่า ลามิน่าเป็นฟิล์มกรองแสงเพียงรายเดียวในประเทศไทย ที่โรงงานผู้ผลิตได้รับมาตรฐานจากหน่วยงานยูเอส เอนเนอร์ยี สตาร์ ในฐานะฟิล์มประหยัดพลังงานคุณภาพสูง ด้วยมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดเป็นพิเศษ โดยจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของ อีพีเอ (EPA-U.S. Environmental Protection Agency)และฟิล์มประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน

mp32-3321-b “ตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปีนี้เติบโตและขยายตัวตามตลาดรถยนต์ใหม่ ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หรือคิดเป็นยอดขายรถประมาณ 8.4-8.5 แสนคัน ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะทำได้ 760 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉพาะฟิล์มกรองแสงประมาณ 7%”

แบรนด์น้องใหม่ในตลาด MIDAS โดยนางสาวพรรษมณฑ์ โรจน์ดำรงพินิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซเว่นตี้ทู อินเตอร์เทรด จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของบริษัทคือการนำเสนอสินค้าที่ได้รับการยอมรับกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยมีสินค้า 3 ประเภทได้แก่ ฟิล์มนิรภัย ราคาตั้งแต่ 9,000 -2.9 หมื่นบาท, ฟิล์มใสกันรอย ราคา 1-1.6 หมื่นบาทและฟิล์มกรองแสง สามารถเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติ ราคาเริ่มต้น 2.9 - 3.4 หมื่นบาท

“ชื่อเสียงของแบรนด์ MIDAS มีการทำตลาดมานานกว่า 21 ปีแล้วที่อเมริกา ส่วนในประเทศไทยเราทดลองทำตลาดมาประมาณ 2 ปี และได้รับการตอบรับที่ดี ลูกค้ามีการบอกปากต่อปาก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งแผนการตลาดหลังจากนี้เราจะมีการสื่อสารให้ถึงผู้บริโภค ทั้งแบบออนไลน์ และแบบออฟไลน์ โดยเฉพาะในโซเชียลออนไลน์ ขณะเดียวกันจะเพิ่มดีลเลอร์จากปัจจุบันที่มี 25 ราย ในปีหน้าจะเพิ่มตามหัวเมืองอีก 30 แห่ง”

นางสาวพรรษมณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดฟิล์มกรองแสงมีสินค้าหลากหลายระดับ หลากหลายยี่ห้อ และในปีหน้าจะมีแบรนด์ต่างๆเข้ามาแข่งขันในตลาดสูงยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น สินค้าจะต้องมีคุณภาพจริงๆ ถึงจะอยู่ได้ เพราะผู้บริโภคมีการค้นหาข้อมูล และศึกษาผลิตภัณฑ์อย่างจริงจังก่อนพิจารณาการซื้อ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว