อสังหาฯภาคใต้ หวังโปรเจ็กต์รัฐกระตุ้น
นับเป็นข่าวดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้เมื่อการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจรที่จังหวัดสงขลาได้อนุมัติงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาทเพื่อพัฒนาภาคใต้ แน่ นอนว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็รอข่าวดีครั้งนี้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและชี้ถึงแนวโน้มการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใน พื้นที่หาดใหญ่-สงขลาและโซนภาคใต้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
ความหวังต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนและสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองหาดใหญ่และจังหวัดสงขลามีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างนั้นหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจได้สัมภาษณ์พิเศษ “ศิริวรรณ ผ่องเสริมสุข” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาในหลายมุมมองที่น่าสนใจ
++ภาพรวมอสังหาฯภาคใต้
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหาดใหญ่-สงขลายังถือว่าเป็นเมือง เศรษฐกิจหลักของโซนภาคใต้ อีกทั้งยังจัดเป็นเมืองแห่งการศึกษา การเลือกที่อยู่อาศัยหากต้อง การบ้านเดี่ยว แนวราบจึงเลือก ทำเลที่นํ้าไม่ท่วม ปัจจุบันภาครัฐในพื้นที่มีการบริหารจัดการที่ดีจึงไม่เกิดปัญหานํ้าท่วมเกิดขึ้น ยกเว้นพื้นที่รอบนอกเมืองที่จัดเป็นพื้นที่รับนํ้าตามนโยบายของภาครัฐเมื่อช่วงฝนตกจำนวนมาก
ล่าสุดนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือระบบโมโนเรล ลงทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนที่เหมาะสมก่อนเสนอรัฐบาลเร่งผลักดันต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลในปี 2561 นี้ ทั้งนี้หากโครงการรถไฟฟ้าสามารถเกิดขึ้นได้จริงยังหวังว่าภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รอบสถานีจะมีการพัฒนาตามไปด้วย รูปแบบเมืองรอบสถานีจะปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะรอบๆ ทั้ง 12 สถานี อีกทั้งยังส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจอื่นอีกด้วย ขอเพียงรัฐบาลมีความชัดเจนด้านการพัฒนาโครงการเท่านั้น
++มองเรื่องราคาที่ดินไว้อย่างไร
ยังเห็นว่าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จะไม่รอให้โครงการรถไฟฟ้าเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงจะเริ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ขณะนี้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย่านธุรกิจการค้าตารางวาละ 5 แสน-1 ล้านบาท หรือสูงสุดไร่ละ 100 ล้านบาทยังมีเกิดขึ้นในพื้นที่หาดใหญ่-สงขลา โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางทาง เศรษฐกิจ จึงไม่น้อยหน้าไปกว่าย่านสีลม-สาทร ของกรุงเทพ มหานคร ดังนั้นปี 2561 ซึ่งจะครบรอบทุกๆ 5 ปีของการปรับราคาที่ดินแม้ว่าปีนี้จะยังทรงตัว แต่แนวโน้มการปรับราคาที่ดินจะเกิดขึ้นได้อีกแน่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเพราะจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา อาจจะมีส่วนให้ประชาชนกล้าที่จะลงทุนใช้จ่ายเงินมากขึ้น
“ในนามผู้ประกอบการธุรกิจยังเล็งเห็นว่าน่าจะมีการจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันยังใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งรองรับได้ 4,000-5,000 คน แต่ยังขาดโรงแรมที่พักอาศัยรองรับ ดังนั้นหากจะให้เป็นการจัดประชุมสัมมนาที่สมบูรณ์แบบก็ควรจะมีที่พักอาศัยรองรับอย่างเพียงพอ ปัจจุบันมีโรงแรมสามารถรองรับได้นับแสนคน มีห้องพัก รองรับได้จำนวนนับหมื่นยูนิต อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วไปเคารพนับถือจำนวนหลายแห่ง อาทิ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว วัดช้างให้สร้างรายได้ในแต่ละปีจำนวนไม่น้อย”
ประการสำคัญหาดใหญ่-สงขลายังจัดได้ว่าเป็นทำเลที่ถูกจับตามองจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำสนใจมาลงทุนพัฒนาโครงการในอนาคต ล่าสุดกลุ่มบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ได้มาพัฒนาโครงการรูปแบบคอนโดมิเนียม ระดับโลว์ไรส์ และบริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) ก่อสร้างบ้านเดี่ยว คาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีบริษัทอื่นสนใจเข้ามาพัฒนาโครงการเพื่อรองรับการขยายเมืองด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าปัจจุบันจะมีที่พักอาศัยรูปแบบอพาร์ตเมนต์จำนวนมากแต่ก็ยังไม่เพียงพอ
“ทำเลย่านกลางเมืองพบว่ามีจำกัดมากขึ้น ราคาแพง จึงพัฒนาที่อยู่อาศัยในระดับราคาถูกได้ไม่มากแล้ว จึงจะขยายออกไปสู่ย่านนอกเมืองมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาโครงข่ายการเดินทางจึงควรจะเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้งในเมืองและนอกเมือง”
++สถานการณ์อสังหาฯปี 61
คาดหวังว่าปี 2561 สถาน การณ์จะดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น หากรายได้ต่อคนอยู่ในระดับที่พอใจแล้วเชื่อว่าจะเริ่มมีการมองหาที่อยู่อาศัยเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะผู้ที่สร้างครอบครัวใหม่ ขณะนี้พบว่ายังมีลูกค้าติดต่อเข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่องรอเพียงการตัดสินใจชัดเจนเท่านั้น
ประการหนึ่งนั้นผู้ประกอบการยังรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและการสร้างความมั่นใจจากภาครัฐและสถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุนแม้ว่าปัจจุบันจะมีสินเชื่อตีกลับจำนวนไม่น้อยก็ตาม แต่หากลูกค้าสามารถสร้างกำไรซื้อเพิ่มขึ้นก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ไม่มากก็น้อย ภาคครอบครัวมีภาระหนี้น้อยลงจึงมีความสามารถในการผ่อนชำระมากขึ้น ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะและหนี้ส่วนบุคคล ภาครัฐและสถาบันการเงินคงต้องมาร่วมกันแก้ไขโดยเฉพาะภาระหนี้จากบัตรเครดิตและการใช้จ่ายเกินตัวที่ยังมีอัตราเอ็นพีแอลสูงในปัจจุบัน
โดยฐานรายได้ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หาดใหญ่-สงขลายังเป็นกลุ่มรายได้ระดับกลาง-บน ที่ยังมีจำนวนมาก แต่เนื่องจากค่อนข้างระวังตัว ไม่อยากสร้างภาระเพิ่มโดยไม่จำเป็นจึงตัดสินใจล่าช้าไปบ้าง อีกทั้งลูกค้ามีโอกาสเลือกดูโครง การมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลที่นํ้าไม่ท่วมจะได้รับความสนใจมากกว่า ดังนั้นแผนการพัฒนาหรือสร้างเมืองใหม่ควรจะได้รับการพิจารณาขึ้นในหาดใหญ่-สงขลาได้แล้วในวันนี้ ประการหนึ่งนั้นสงขลามีอัตราการชำระภาษีอันดับที่ 2 ของประเทศแต่กลับพบว่ามีการสนับสนุนงบประมาณอย่างไม่สมดุลต่อการพัฒนา ล่าสุดยังได้รับการจัดกลุ่มจังหวัดอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจึงส่งผลให้หาดใหญ่-สงขลาสูญเสียโอกาสหลายด้านไปอย่างน่าเสียดาย
“หาดใหญ่-สงขลายังถือว่าเป็นฮับของภาคใต้ดังนั้นหากรัฐบาลจะพัฒนาอะไรเกิดขึ้นอยากให้มองในลำดับแรกก่อนเพื่อดึงจังหวัดอื่นให้เกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วย แม้จะเป็นเมืองหลักของการค้าชายแดนแต่ก็มีปริมาณการค้าเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ความหวังต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนและสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองหาดใหญ่และจังหวัดสงขลามีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างนั้นหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจได้สัมภาษณ์พิเศษ “ศิริวรรณ ผ่องเสริมสุข” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาในหลายมุมมองที่น่าสนใจ
++ภาพรวมอสังหาฯภาคใต้
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหาดใหญ่-สงขลายังถือว่าเป็นเมือง เศรษฐกิจหลักของโซนภาคใต้ อีกทั้งยังจัดเป็นเมืองแห่งการศึกษา การเลือกที่อยู่อาศัยหากต้อง การบ้านเดี่ยว แนวราบจึงเลือก ทำเลที่นํ้าไม่ท่วม ปัจจุบันภาครัฐในพื้นที่มีการบริหารจัดการที่ดีจึงไม่เกิดปัญหานํ้าท่วมเกิดขึ้น ยกเว้นพื้นที่รอบนอกเมืองที่จัดเป็นพื้นที่รับนํ้าตามนโยบายของภาครัฐเมื่อช่วงฝนตกจำนวนมาก
ล่าสุดนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือระบบโมโนเรล ลงทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนที่เหมาะสมก่อนเสนอรัฐบาลเร่งผลักดันต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลในปี 2561 นี้ ทั้งนี้หากโครงการรถไฟฟ้าสามารถเกิดขึ้นได้จริงยังหวังว่าภาคการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รอบสถานีจะมีการพัฒนาตามไปด้วย รูปแบบเมืองรอบสถานีจะปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะรอบๆ ทั้ง 12 สถานี อีกทั้งยังส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจอื่นอีกด้วย ขอเพียงรัฐบาลมีความชัดเจนด้านการพัฒนาโครงการเท่านั้น
ยังเห็นว่าการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จะไม่รอให้โครงการรถไฟฟ้าเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงจะเริ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ขณะนี้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย่านธุรกิจการค้าตารางวาละ 5 แสน-1 ล้านบาท หรือสูงสุดไร่ละ 100 ล้านบาทยังมีเกิดขึ้นในพื้นที่หาดใหญ่-สงขลา โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางทาง เศรษฐกิจ จึงไม่น้อยหน้าไปกว่าย่านสีลม-สาทร ของกรุงเทพ มหานคร ดังนั้นปี 2561 ซึ่งจะครบรอบทุกๆ 5 ปีของการปรับราคาที่ดินแม้ว่าปีนี้จะยังทรงตัว แต่แนวโน้มการปรับราคาที่ดินจะเกิดขึ้นได้อีกแน่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเพราะจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา อาจจะมีส่วนให้ประชาชนกล้าที่จะลงทุนใช้จ่ายเงินมากขึ้น
“ในนามผู้ประกอบการธุรกิจยังเล็งเห็นว่าน่าจะมีการจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันยังใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งรองรับได้ 4,000-5,000 คน แต่ยังขาดโรงแรมที่พักอาศัยรองรับ ดังนั้นหากจะให้เป็นการจัดประชุมสัมมนาที่สมบูรณ์แบบก็ควรจะมีที่พักอาศัยรองรับอย่างเพียงพอ ปัจจุบันมีโรงแรมสามารถรองรับได้นับแสนคน มีห้องพัก รองรับได้จำนวนนับหมื่นยูนิต อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วไปเคารพนับถือจำนวนหลายแห่ง อาทิ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว วัดช้างให้สร้างรายได้ในแต่ละปีจำนวนไม่น้อย”
“ทำเลย่านกลางเมืองพบว่ามีจำกัดมากขึ้น ราคาแพง จึงพัฒนาที่อยู่อาศัยในระดับราคาถูกได้ไม่มากแล้ว จึงจะขยายออกไปสู่ย่านนอกเมืองมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาโครงข่ายการเดินทางจึงควรจะเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้งในเมืองและนอกเมือง”
++สถานการณ์อสังหาฯปี 61
คาดหวังว่าปี 2561 สถาน การณ์จะดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น หากรายได้ต่อคนอยู่ในระดับที่พอใจแล้วเชื่อว่าจะเริ่มมีการมองหาที่อยู่อาศัยเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะผู้ที่สร้างครอบครัวใหม่ ขณะนี้พบว่ายังมีลูกค้าติดต่อเข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่องรอเพียงการตัดสินใจชัดเจนเท่านั้น
โดยฐานรายได้ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หาดใหญ่-สงขลายังเป็นกลุ่มรายได้ระดับกลาง-บน ที่ยังมีจำนวนมาก แต่เนื่องจากค่อนข้างระวังตัว ไม่อยากสร้างภาระเพิ่มโดยไม่จำเป็นจึงตัดสินใจล่าช้าไปบ้าง อีกทั้งลูกค้ามีโอกาสเลือกดูโครง การมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลที่นํ้าไม่ท่วมจะได้รับความสนใจมากกว่า ดังนั้นแผนการพัฒนาหรือสร้างเมืองใหม่ควรจะได้รับการพิจารณาขึ้นในหาดใหญ่-สงขลาได้แล้วในวันนี้ ประการหนึ่งนั้นสงขลามีอัตราการชำระภาษีอันดับที่ 2 ของประเทศแต่กลับพบว่ามีการสนับสนุนงบประมาณอย่างไม่สมดุลต่อการพัฒนา ล่าสุดยังได้รับการจัดกลุ่มจังหวัดอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจึงส่งผลให้หาดใหญ่-สงขลาสูญเสียโอกาสหลายด้านไปอย่างน่าเสียดาย
“หาดใหญ่-สงขลายังถือว่าเป็นฮับของภาคใต้ดังนั้นหากรัฐบาลจะพัฒนาอะไรเกิดขึ้นอยากให้มองในลำดับแรกก่อนเพื่อดึงจังหวัดอื่นให้เกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วย แม้จะเป็นเมืองหลักของการค้าชายแดนแต่ก็มีปริมาณการค้าเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,321 วันที่ 10 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560
