กรมชลฯเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังภาคใต้อย่างต่อเนื่อง

06 ธ.ค. 2560 | 11:26 น.
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สรุปได้ดังนี้

จังหวัดชุมพร เนื่องจากมีฝนตกหนักทำให้มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังบนถนนในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร และเกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณลุ่มน้ำคลองชุมพร คลองสวี คลองตะโก คลองหลังสวน และ คลองละแม โครงการชลประทานชุมพร ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 16 เครื่อง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 22 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว

จังหวัดสุราษฎร์ธานี สถานการณ์น้ำในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เวียงสระ อ.พระแสง อ.บ้านนาสาร อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม และอ.พุนพิน สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำตาปี ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณอ.พระแสง ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 45 เซนติเมตร และที่อ.เคียนซา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 90 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำคลองท่าโพธิ์ และประตูระบายน้ำคลองไชยา พร้อมกับนำรถแบ็คโฮช่วยกำจัดเศษขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด
tavee

จังหวัดนครศรีธรรมราช ฝนที่ตกหนักลงมาอีก ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง 12 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมคีรี อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.หัวไทร อ.ชะอวด อ.ปากพนัง อ.พิปูน อ.บางขัน อ.ทุ่งใหญ่ อ.ขนอม อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.ลานสกา ปัจจุบันได้เร่งเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสายหลัก โดยกรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 49 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 40 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระดับน้ำในลำน้ำธรรมชาติ อยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง การระบายน้ำจึงเป็นไปได้ช้า

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ฝนที่ตกหนักในช่วงคืนที่ผ่านมา(5 ธ.ค. 60) ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลหลากลงสู่ลำน้ำสายหลักคลองท่าดี และคลองสาขาของคลองท่าดี ผ่านเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทั้ง 5 สาย ส่งผลให้ระดับน้ำในเขตเทศบาลนครฯเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะท่วมถนนสายหลักประมาณ 40-50 เซนติเมตร ส่วนในซอยชุมชนที่เป็นที่ลุ่มต่ำจะท่วมสูงประมาณ 0.80-1.00 เมตร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช ได้มีหนังสือแจ้งเตือนจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ให้เตรียมพร้อมรับมือแล้ว ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครฯ รวม 11 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุดต่อไป

จังหวัดสงขลา แม้ว่าจะมีฝนตกน้อยลง แต่ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมขัง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา อ.รัติภูมิ และอ.ควนเนียง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำต่างๆลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะคลองอู่ตะเภา ที่ไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ ระดับน้ำที่สถานี X.90 บ.บางศาลา อ.คลองหอยโข่ง ลดลงต่ำกว่าตลิ่ง 4.38 เมตร แนวโน้มลดลง กรมชลประทาน เตรียมความพร้อมช่วยเหลือ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 45 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 26 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังให้เร็วที่สุด

จังหวัดพัทลุง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนขนุน อ.ป่าพะยอม อ.กงหรา อ.ป่าบอน อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และอ.เมือง ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 20 เครื่อง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 4 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

จังหวัดยะลา ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.รามัน และอ.ยะหา ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีช่วงอ.เมือง เริ่มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังในที่ลุ่มต่ำแล้ว

จังหวัดปัตตานี พื้นที่น้ำท่วม 7 อำเภอ ไก้แก่ อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.สายบุรี อ.โคกโพธิ์ อ.ไม้แก่น อ.ปะนาเระ และ อ.เมือง ปัจจุบันแม่น้ำปัตตานีในช่วงเหนือเขื่อนปัตตานี ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่ง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนแม่น้ำปัตตานีในช่วงก่อนเข้าเมืองปัตตานี มีแนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่ง ภายใน 3 - 5 วัน โครงการชลประทานปัตตานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่อง บริเวณสะพานเดชานุชิต เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังแล้ว

จังหวัดนราธิวาส ฝนที่ตกหนัก ประกอบกับปริมาณน้ำฝนสะสมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร อ.ระแงะ อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน อ.จะแนะ อ.เจาะไอร้อง และอ.ตากใบ ปัจจุบันลุ่มน้ำโก-ลก ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน หากไม่มีฝนตกลงมา กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 12 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุดต่อไปแล้ว

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว