‘ตราช้าง’เปิดกลยุทธ์รุกยิปซัม ชูโซลูชันและเทคโนโลยี

09 ธ.ค. 2560 | 11:27 น.
ถึงเทรนด์วัสดุก่อสร้างช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชะลอตัวไป แต่จากนี้ไปผู้ประกอบการเชื่อว่าแนวโน้มตลาดจะกลับสู่ภาวะที่ดีขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ยิปซัมตราช้าง ผู้นำนวัตกรรมฝ้าเพดานและระบบผนังยิปซัม ซึ่งอยู่ในตลาดมายาวนานเข้าสู่ปีที่ 36 นายจรุง กาญจนภูมิ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (จำกัด) สระบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงแผนบุกตลาดผลิต ภัณฑ์ยิปซัมในประเทศไทย ว่า ยังคงให้ความสำคัญต่อการรุกตลาดผ่านดีลเลอร์เอสซีจี และสื่อออนไลน์ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ พร้อมด้วยการนำเสนอแคมเปญเด็ดช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้

[caption id="attachment_239165" align="aligncenter" width="466"] จรุง กาญจนภูมิ จรุง กาญจนภูมิ[/caption]

++เผยการรุกตลาดรับปี 61
สำหรับการรุกช่วงโค้งสุดท้ายปี 2560 และการลงทุนในปี 2561 ยังคงร่วมทุนรูปแบบจอยต์เวนเจอร์กับกลุ่มเอสซีจีและยูเอสจีบอรอลจากอเมริกาที่คิดค้นนวัตกรรมแผ่นยิปซัมเป็นรายแรกของโลก ปัจจุบันรุกตลาดในประเทศไทยครบรอบ 35 ปี ดังนั้นในฐานะผู้นำตลาดจึงท้าทายความสามารถในการทำตลาดปัจจุบันนี้อย่างมาก ขณะนี้ได้รุกการนำยิปซัมไปติดตั้งเป็นระบบผนังภายในกันมากขึ้น เพราะประหยัดกว่า โดดเด่นด้วยคุณสมบัติ อาทิ ทนชื้น ทนร้อน ป้องกันเสียงสะท้อน นํ้าหนักเบากว่า จึงสามารถนำไปก่อสร้างบนตึกสูงได้ง่ายและช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง ไม่ต้องรับนํ้าหนักมากเกินความจำเป็น

โดยกลยุทธ์ทางการรุกตลาดยิปซัมตราช้างยังคงรุกตลาดใหม่จะเน้นเจาะตลาดผ่านระบบออนไลน์เสริมความแข็งแกร่งแบรนด์ตราช้างมากขึ้น โดยได้จ้างกลุ่มเจคอปดำเนินการศึกษาการก่อสร้างอาคารสูง หาวิธีก่อสร้างได้อย่างประหยัดต้นทุน เวลา และพลังงาน ซึ่งในการศึกษาเพื่อให้เห็นว่าเมื่อก่อสร้างอาคารไม่ใช่จะคิดเรื่องต้นทุนการก่อสร้างอย่างเดียวเท่านั้น ยังต้องคำนวณค่าใช้จ่ายอื่นควบคู่กันไปด้วย

“ปีหน้าเข้าสู่ปีที่ 36 จึงเป็นปีที่ท้าทายเป้าหมายที่ได้รับไม่น้อยกว่าปีนี้ ดังนั้นจึงจะได้เห็นการขายรูปแบบโซลูชันที่จะเน้นการขายความเด่นด้านเทคโนโลยี รุกกลุ่มลูกค้าใหม่ จะได้เห็นการผลิตระบบผนังใหม่ออกมาป้อนตลาดเสริมระบบผนังภายใน การกระจายสินค้าจะเข้มข้นมากขึ้น โดยในปีหน้ายังมองปัจจัยลบในแง่เศรษฐกิจจากทั่วโลก ราคา นํ้ามันที่เกี่ยวกับต้นทุนหลักยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด”

นอกจากนั้นยังเจาะกลุ่มสถาปนิกนักออกแบบ ที่ปรึกษา และดีเวลอปเปอร์โครงการ โดยในเดือนธันวาคมนี้ยังมีแคมเปญส่งเสริมการขยายนำเสนอช่วงโค้งสุดท้ายปี 2560 ด้วยการเปิดตัวแคมเปญหนังโฆษณาชุด “เหตุเกิดจากฝ้า... งานจบ แต่คนไม่อยากจบ” ตอกยํ้าแนวคิดการเลือก แผ่นยิปซัมที่ต้องใส่ใจคุณภาพที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพสูง แข็งแกร่ง งานไว ไม่แอ่นตัว

วิทยุพลังงาน ++เปิดแนวรุกพื้นที่ใหม่ต่อเนื่อง
หากเป็นโครงการขนาดใหญ่ยังมองว่ายิปซัมตราช้างสามารถรุกตลาดได้อย่างทั่วถึง ตรงข้ามกับตลาดปรับปรุงหรือรีโนเวชันยังค่อนข้างยากในการจาะตลาดกลุ่มนี้ที่ยังมองว่ามีปริมาณจำนวนมาก ดังนั้นจึงเน้นการเจาะให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้านได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เจ้าของบ้านเกิดความสนใจและเข้าใจในคุณลักษณะของสินค้าได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ

ปัจจุบันเน้นการใช้กลยุทธ์เข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้าผ่านระบบไอที ควบคู่ไปกับการทำตลาดผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ในส่วนกรณีการขายผ่านดีลเลอร์ของเอสซีจีนั้นยังรุกการนำเสนอผ่านสื่อหน้าร้าน ตลอดจนโปรโมชันรูปแบบต่างๆ โดยได้วางงบประมาณการรุกตลาดในแต่ละปีกว่า 50 ล้านบาท ยังมองทาร์เก็ตมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก

“ยังเชื่อว่าการลงทุนภาครัฐจะส่งผลอานิสงส์ไปอีก 2-3 ปีกว่าที่จะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังมีความท้าทายด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเนื่องจากภาพรวมการฟื้นตัวยังไม่ดีเช่นในอดีต ปัจจุบันประเทศไทยยังพึ่งมหภาคทางเศรษฐกิจใน 2 เซ็กเตอร์นั่นคือ การท่องเที่ยวและการนำเข้า-ส่งออก ที่ดูเหมือนว่าจะส่งสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้ว เช่นเดียวกับการค้าปลีกซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,320 วันที่ 7 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว