เคาะ! ซื้อคืนเรือ 6.4 หมื่นต่อตัน เปิดเจ้าของเรือประมงแจ้งชื่อด่วนภายใน 8 ธ.ค.

07 ธ.ค. 2560 | 14:33 น.
รัฐใจป้ำ! รับซื้อคืน “เรือประมงกลุ่มขาวแดง” ให้ 50% ของราคากลาง เฉลี่ย 4.4-6.4 หมื่นบาทต่อตันกรอส เตรียมชง ครม. ไฟเขียว ใครสนใจแจ้งชื่อภายใน 8 ธ.ค. นี้ จับตาเรือขนาดใหญ่ขึ้นเกิน 10% จากทะเบียนถูกบีบลดวันทำประมง เสี่ยงขาดทุนสูง ถอดใจร่วมขายทิ้ง

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรมประมงได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยและสมาคมประมง ทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล มี นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติร่วมกันเรื่องโครงการซื้อเรือประมงคืนในส่วนเรือกลุ่มขาวแดง ซึ่งเป็นเรือที่ถูกตรึงพังงา (ล็อกพวงมาลัย) กับกรมเจ้าท่า จำนวน 949 ลำ แต่บางส่วนได้้ขายไปแล้ว คงเหลือประมาณ 900 ลำ ที่รัฐบาลจะรับซื้อเรือคืน เพื่อนำไปใช้ในหน่วยงานราชการต่าง ๆ หากสภาพเรือมีความมั่นคงแข็งแรงใช้งานได้ แต่บางส่วนอาจจะไปจมทำปะการังเทียม


Tp8-3279-b

“บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยดี โดยมีคนเสนอในส่วนที่ทำประมงไม่คุ้ม ก็อยากจะขายเรือทิ้ง ทางกรมประมงได้เห็นชอบให้ทางนายกสมาคมประมง 22 จังหวัด ไปประชาสัมพันธ์ว่า หากใครต้องการที่จะขายเรือ ก็ให้แจ้งความประสงค์ได้ภายในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ หลังจากนั้น จะรวบรวมรายชื่อส่งให้กรมประมงในวันที่ 9 ธ.ค. เพื่อส่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป”

นายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมงสมุทรปราการ เผยว่า ราคากลางรับซื้อเรือตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เคยใช้กับเครื่องมือประเภทอวนรุน จำนวน 330 ลำ ก่อนหน้านี้ จะนำมาใช้กับเรือประมงพาณิชย์ในกลุ่มขาวแดง มีตั้งแต่ขนาดเรือ 1-150 ตันกรอสขึ้นไป โดยราคาเฉลี่ยรับซื้อคืนต่อตันกรอสในอัตรา 50% ของราคากลาง จะอยู่ในช่วง 4.49-6.45 หมื่นบาท ตัวอย่าง เรือขนาด 1-10 ตันกรอส ราคากลางที่จะเสนอ ครม. อยู่ที่ 8.89 แสนบาท ราคาเฉลี่ยรับซื้อคืนต่อตันกรอส 50% ของราคากลาง อยู่ที่ 4.49 หมื่นบาท ขนาดเรือ 10.1-20 ตันกรอส ราคากลางอยู่ที่ 1.79 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยรับซื้อเรือคืน 4.91 หมื่นบาทต่อตันกรอส เป็นต้น


tp8-3320-a

“เรื่องการซื้อขายเรือคืน ทางกรมประมงได้แจ้งว่า เรือที่อยู่ในระบบกว่า 1 หมื่นลำเศษ ที่มีอาชญาบัตรหรือมีใบอนุญาต หากเห็นว่า หากทำประมงต่อแล้วไม่คุ้ม ก็สามารถนำเรือมาขายได้ เฉพาะอย่างยิ่ง เรือในกลุ่มที่ 2 คือ เรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเกิน 10% จากที่จดทะเบียนขอใบอนุญาตไว้ (มีจำนวน 848 ลำ) ทางกรมประมงจะให้ลดวันทำการประมงลง โดยอ้างเหตุผลว่า เรือกลุ่มนี้ทำให้การจัดสรรปริมาณสัตว์น้ำคลาดเคลื่อน มีผลต่อค่า MSY (ปริมาณการจับสัตว์น้ำสูงสุดที่ยั่งยืน) ดังนั้น ในกลุ่มนี้ หากเห็นว่า การลดวันทำการประมงลงจะไม่คุ้มกับต้นทุนและค่าแรงงาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จะขายเรือให้กับรัฐบาล ทางอธิบดีกรมประมงก็เห็นชอบ จึงให้ทางสมาคม 22 จังหวัด เร่งประสานกับสมาชิกเป็นการด่วน หากใครจะขายก็ให้รีบแจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ เช่นเดียวกับ กลุ่มขาวแดง”

ด้าน นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาประมงในช่วงกว่า 3 ปี นับตั้งแต่ทางสหภาพยุโรป (อียู) ได้ให้ใบเหลืองกับประเทศไทย ยอมรับว่า ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลมิได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะช่วยเหลือ เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด ขอให้เชื่อใจ และร่วมมือกันต่อไป เพื่อยกการทำประมงไทยให้เป็นระดับสากลที่โลกยอมรับ


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,320 วันที่ 7-9 ธ.ค. 2560 หน้า 08

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว