คัดเลือก กกต.ผ่านด่านคุณสมบัติแค่ 15 คนจากผู้สมัคร 41 คน
คัดเลือก กกต.เข้มข้น มีผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติแค่ 15 คนจากผู้สมัครทั้งหมด 41 คน "ประชา เตรัตน์-ฐากร ตัณฑสิทธิ์"ผ่านด่านแรก คนดังหลุดโผหลายราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.60 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซี่งมีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาผู้สมควรได้รับเเต่งตั้งเป็น กกต.ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 จากผู้สมัครทั้งหมด 41 คน ผลปรากฏว่า เหลือผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเพียง 15 คน ดังนี้ 1.นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 2.นายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี 3.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 4.นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 5.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ศาสตราจารย์ประจำ สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 6.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์ จำกัด 7.นายชัยวัธน์ ประจงใจ กรรมการบริหารสภาทนายความ และนายทะเบียนสภาทนายความ
8.นายมังกร เจริญผล ทนายความอิสระ และหัวหน้าสำนักงานทนายความมังกร เจริญผล 9.นายไสว จิตเพียร ทนายความ สำนักงานไสวและเพื่อนทนายความ 10.นายประหยัด เสนวิรัช นายกสมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค 11.น.ส.นิษฐ์วดี จิรโรจน์ภิญโญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระศรีอารย์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอาจารย์บัณฑิตวิทยาลัย สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 12.นายธงชัย จันทร์แจ้ง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปือย จังหวัดศรีสะเกษ 13.นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) 14.นายทองสุข ดวงบุปผา ประธานเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (คตทช.) 15.นางสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการมูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาฯจะเชิญผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม เข้ามาสัมภาษณ์และแสดงความคิดเห็นในเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต.ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้
กรณีมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหา กกต.41 คน แต่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเพียง 15 คนนั้น สาเหตุเกิดจากคณะกรรมการสรรหา กกต.ได้ยึดตามหลักการคุณสมบัติที่เขียนไว้เข้มข้น โดยตรวจสอบเเล้วพบว่าส่วนใหญ่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการติดต่อกันไม่ถึง 5 ปี ตามที่บัญญัติไว้ อีกทั้งการพิจารณายังยึดตามคำอภิปรายของสมาชิก สนช. เมื่อครั้งพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วย กกต.ว่า สำหรับหัวหน้าส่วนราชการหมายถึง ผบ.ตร.คนเดียว ส่วนทหารต้องเป็น ผบ.เหล่าทัพ ในขณะที่สายข้าราชการพลเรือน เช่น ผู้ว่าฯ ถือว่าเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ที่ต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงเป็นเหตุผลให้คนดัง อาทิ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา อดีตรอง ผบ.ตร., พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช., นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช และ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์ อดีตหัวหน้าศาลทหารสูงสุด ที่เข้ารับการสรรหาหลุดโผ ในส่วนเรื่องการใช้อำนาจใหม่ที่เปิดช่องให้คณะกรรมการสรรหา กกต. ทาบทามบุคคลภายนอก ที่มีคุณสมบัติครบเพิ่มได้นั้น คณะกรรมการสรรหา กกต.จะประชุมเพื่อหารือข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ว่าจะเชิญบุคคลมาเพิ่มเติมหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.60 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซี่งมีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาผู้สมควรได้รับเเต่งตั้งเป็น กกต.ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 จากผู้สมัครทั้งหมด 41 คน ผลปรากฏว่า เหลือผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเพียง 15 คน ดังนี้ 1.นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 2.นายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี 3.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 4.นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 5.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ศาสตราจารย์ประจำ สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 6.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์ จำกัด 7.นายชัยวัธน์ ประจงใจ กรรมการบริหารสภาทนายความ และนายทะเบียนสภาทนายความ
8.นายมังกร เจริญผล ทนายความอิสระ และหัวหน้าสำนักงานทนายความมังกร เจริญผล 9.นายไสว จิตเพียร ทนายความ สำนักงานไสวและเพื่อนทนายความ 10.นายประหยัด เสนวิรัช นายกสมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค 11.น.ส.นิษฐ์วดี จิรโรจน์ภิญโญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระศรีอารย์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอาจารย์บัณฑิตวิทยาลัย สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 12.นายธงชัย จันทร์แจ้ง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปือย จังหวัดศรีสะเกษ 13.นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) 14.นายทองสุข ดวงบุปผา ประธานเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (คตทช.) 15.นางสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการมูลนิธิเพื่อนหญิง มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม
กรณีมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหา กกต.41 คน แต่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเพียง 15 คนนั้น สาเหตุเกิดจากคณะกรรมการสรรหา กกต.ได้ยึดตามหลักการคุณสมบัติที่เขียนไว้เข้มข้น โดยตรวจสอบเเล้วพบว่าส่วนใหญ่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการติดต่อกันไม่ถึง 5 ปี ตามที่บัญญัติไว้ อีกทั้งการพิจารณายังยึดตามคำอภิปรายของสมาชิก สนช. เมื่อครั้งพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วย กกต.ว่า สำหรับหัวหน้าส่วนราชการหมายถึง ผบ.ตร.คนเดียว ส่วนทหารต้องเป็น ผบ.เหล่าทัพ ในขณะที่สายข้าราชการพลเรือน เช่น ผู้ว่าฯ ถือว่าเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ที่ต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงเป็นเหตุผลให้คนดัง อาทิ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา อดีตรอง ผบ.ตร., พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช., นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช และ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์ อดีตหัวหน้าศาลทหารสูงสุด ที่เข้ารับการสรรหาหลุดโผ ในส่วนเรื่องการใช้อำนาจใหม่ที่เปิดช่องให้คณะกรรมการสรรหา กกต. ทาบทามบุคคลภายนอก ที่มีคุณสมบัติครบเพิ่มได้นั้น คณะกรรมการสรรหา กกต.จะประชุมเพื่อหารือข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ว่าจะเชิญบุคคลมาเพิ่มเติมหรือไม่
