ไทยพาณิชย์ปล่อยกู้วินด์ 3.7 หมื่นล. ลุยไฟฟ้าพลังงานลมสูงสุดในไทย

04 ธ.ค. 2560 | 12:46 น.
ไทยพาณิชย์ปล่อยกู้ 3.7 หมื่นล้านบาท ให้วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง ลุยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 450เมกะวัตต์ มีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2562 เผยนับเป็นการสนับสนุนทางการเงินที่มากที่สุดของธนาคารไทยแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย

6x41B5A0471 (1) นายวศิน ไสยวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด Multi-Corporate Segment และผู้บริหารสูงสุด Corporate Segment ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าววว่า  “ธุรกิจพลังงานทดแทนมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด  ล่าสุดเราได้ร่วมสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวนกว่า 37,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 5 โครงการ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพและใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งนับว่าเป็นวงเงินสนับสนุนทางการเงินที่มากที่สุดของธนาคารไทยแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย

ครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือกันอีกครั้งระหว่างบริษัทฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังจากที่ธนาคารได้เคยให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ อันได้แก่ โครงการ เฟิร์ส โคราช วินด์, โครงการ เค.อาร์.ทู. และโครงการวะตะแบก โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 5 แห่งครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานลมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยธนาคารไทยพาณิชย์มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนสำหรับธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อช่วยขับเคลื่อนการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนของสังคมโลกในอนาคต”

วิทยุพลังงาน นายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือ KPN Group กล่าวว่า “ธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศไทยยังถือว่าน่าสนใจ เพราะยังมีความต้องการไฟฟ้าอีกจำนวนมาก รวมทั้งภาครัฐมีการส่งเสริมให้ใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่หลากหลาย ซึ่งการได้รับการสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ แล้ว ยังถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยอีกด้วย แม้ว่าปัจจุบันบริษัทฯ จะมีการพัฒนาและดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเป็นหลัก แต่เรายังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อโอกาสในการใช้ความเชี่ยวชาญของเราขยายธุรกิจสู่ตลาดในต่างประเทศด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลายมากขึ้น”

นางเอ็มมา คอลลินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความทุ่มเทของคณะทำงานของบริษัทฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ รวมทั้งความร่วมมือของ Vestas และ GE ทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดมาใช้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีศักยภาพเทียบเท่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทวีปยุโรปที่มีกำลังลมที่แรงกว่า ทางบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาครั้งสำคัญในครั้งนี้ และมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในระดับประเทศและระดับภูมิภาคต่อไป”

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 5 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิ จะมีการใช้กังหันลมทั้งของ Vestas และ General Electric (“GE”) โดย Vestas จะติดตั้งกังหันรุ่น V136-3.0 MW จำนวน 60 ตัวโดยกังหันรุ่นนี้มีความสูงถึง 157 เมตร ซึ่งถือเป็นกังหันที่สูงที่สุดและเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีการใช้กังหันรุ่นดังกล่าว ส่วน GE จะติดตั้งกังหันรุ่น GE3.43-137 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบไฮบริดระหว่าง Steel และ Concrete จำนวน 90 ตัว นอกจากนี้ GE ยังก่อสร้างสถานีไฟฟ้าใหม่จำนวน 6 สถานีสำหรับโครงการอีกด้วย

ปัจจุบัน โครงการทั้ง 5 แห่งได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างไตรมาส 2 ปี 2561 และไตรมาส 1 ปี 2562 ภายหลังโครงการแล้วเสร็จ กำลังการผลิตของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 720 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ e-book