‘ข้อมูล + กึ๋น’... ประมวลผลการตอบโจทย์ลูกค้า
การทำงานในโลกยุคดิจิตอล คนส่วนใหญ่จะเชื่อมั่นว่า การมี Big Data จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ แต่จริงๆ แล้ว ข้อมูลเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้การตอบโจทย์นั้นแม่นยำยิ่งขึ้น แต่หากจะให้คำตอบนั้นโดนใจ สิ่งสำคัญคือ “มันสมอง” และ “sense” ที่นักคิดนักบริหารต้องมี ซึ่ง “คุณนิ - ชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท AVG Thailand จำกัด บอกเลยว่า เธอใช้ทั้งกึ๋น
“การที่จะทำให้เราบริหารได้สำเร็จ...นิ มองว่า เราต้องเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อกึ๋น หรือ sense ของตัวเอง เราต้องดูตัวเลข แล้วเอามา engagement ทำสื่อแล้วได้ผลอย่างไร แต่ถ้าเราดูแต่ตัวเลข โดยไม่ได้ใช้ sense ของตัวเองก็ไม่ได้”
[caption id="attachment_238721" align="aligncenter" width="335"]
ชฎากร ธนสุวรรณเกษม[/caption]
จากประสบการณ์ที่เรียนจบคณะบริหารธุรกิจ เอกการบริหารจัดการโฆษณา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และ HSK Program at Beijing Chinese Language and Culture College เคยผ่านทั้งงานมาร์เก็ตติ้ง งานเอเยนซี และยังได้ร่วมงานกับไป่ตู้ ทำเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งด้าน search engine ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ เอวีจี ไทยแลนด์ ซึ่งก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่าง เอวีจี บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในจีนระดับแนวหน้าของเอเชีย และ วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ บริษัท ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นฯ ที่ทำการตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้าที่ต้องการนำธุรกิจไปเปิดตลาดที่จีน
“คุณนิ” บอกว่า การทำงานตรงนี้ ทักษะสำคัญคือ เรื่องภาษาและต้องมีความเข้าใจสื่อจีน บางคนที่ติดต่อจะลงโฆษณาผ่านสื่อจีน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมยุ่งยากนัก ต้องใช้เวลานานนักในการจะเปิดแอกเคาต์สักหนึ่งแอกเคาต์ นั่นเป็นเพราะสื่อจีนถูกควบคุมด้วยรัฐบาลจีน การจะเปิดแอกเคาต์ต้องใช้เวลานาน กฎเกณฑ์ของเขาไม่เหมือนของไทย
ความท้าทายของผู้บริหารธุรกิจดิจิตอลคนนี้ เธอบอกยังมีอีกมาก เพราะที่ผ่านมา แม้จะทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งมาตลอด และเคยทำงานกับสื่อจีนมาแล้ว แต่การเข้ามานั่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดต้องมีทักษะรอบด้าน ทั้งงานบริหาร งานขาย งานการตลาด สิ่งที่ดีคือ การทำงานมาแล้วตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆ จนมาถึงระดับบริหาร ทำให้เข้าใจน้องๆ เข้าใจทีมงานได้ดี แต่การบริหารธุรกิจที่การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้ อย่างที่ “คุณนิ” บอกข้างต้นว่า ต้องมีการ engagement ผสมผสานทั้งความรู้สึก ประสบการณ์ ตัวเลข ข้อมูล
[caption id="attachment_238723" align="aligncenter" width="329"]
ชฎากร ธนสุวรรณเกษม[/caption]
“ปัญหาที่เจอ...เราทำ search engine มานาน ลูกค้ามีโจทย์ต่างกัน เราต้องวางแผนในหลายๆ มุม ส่วนของ search engine เป็นส่วนสุดท้ายแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น ต้องมีการทำพีอาร์ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย สมัยก่อนเรื่องวัดผลค่อนข้างยาก เราทำออฟไลน์ วิทยุ ทีวี วัดผลยาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องวัดผล ในมุมของเอเยนซีมันยากขึ้น เพราะมันเห็นทั้งหมด ตัวเลขมันฟ้องหมด เรามีแบบจาก 10 แบบ จะคัดให้เหลือหนึ่ง มันมีขั้นตอนมากมาย มีตัวเลขที่พิสูจน์ให้เห็นจริง แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น ก็ต้องมีเรื่องของ sense ของเราประกอบ”
โชคดีที่ว่า “คุณนิ” เป็นคนที่ชอบแก้ปัญหา เมื่อสามารถแก้ปัญหาได้ มันจะเกิดความรู้สึกดีๆ เกิดความภาคภูมิใจ การได้แก้โจทย์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่แตกต่างกัน และมีโจทย์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ จึงทำให้การทำงานสนุก
ในฐานะของคนที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงสื่อ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในไทย และที่ประเทศจีน ซีอีโอคนนี้บอกว่า ประเทศจีนจะลํ้าหน้ากว่าไทยประมาณ 5 ปี ทุกวันนี้สื่อในจีน ยังมีทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป แม้จีนจะหันมาซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์แล้วเป็นส่วนใหญ่ และโดยส่วนตัวของเธอเอง ก็ยังให้ความเชื่อถือกับข่าวสารที่ได้รับจากสื่อออฟไลน์มากกว่า ขณะที่บางอุตสาหกรรม ก็ยังต้องใช้สื่อออฟไลน์ในการสื่อสารกับผู้บริโภค เพราะฉะนั้น สื่อออฟไลน์และออนไลน์ยังอยู่คู่กันไปอีกนาน
“การที่จะปรับสัดส่วนออฟไลน์ ออนไลน์ขึ้นมา สำหรับเมืองไทยคงอีกนานพอสมควร กว่าออนไลน์จะแพงเท่าออฟไลน์ ระหว่างจีนกับไทย เขาลํ้ากว่าเรา 5 ปี แต่ทุกวันนี้ สื่อทีวี ก็ยังแพงกว่า วิดีโอ หรือยูทูป ภายใน 5 ปี ออนไลน์ก็ยังถูกกว่าเยอะ”
นอกจากมุมมองเรื่องการทำตลาด ในแง่การบริหาร “คุณนิ” ยังมีโอกาสได้ทำงานทั้งกับคนไทยและคนจีน เมื่อถามว่า เธอชอบวิธีการทำงานแบบไหนมากกว่ากัน ซีอีโอหญิงคนนี้เปรียบเทียบให้เห็นเลยว่า คนจีนฮ่องกงมีลักษณะที่ตรงไปตรงมา และมีความขยันมากๆ ดึกดื่นเที่ยงคืน หรือวันหยุด ก็ยังติดต่องานได้ ไม่ใช่แค่ระดับบริหาร แต่เป็นคนทำงานทุกระดับที่มีความขยันอดทนเหมือนกัน ในขณะที่คนไทย จะเรื่อยๆ ทำงานสบายๆ
“การทำงานชอบฮ่องกง อะไรก็ตรงๆ คนไทยจะติดเกรงใจ อะไร ก็แล้วแต่...จะมีพื้นที่สีเทาเยอะมาก แต่ถ้าการใช้ชีวิต ชอบเมืองไทยมากกว่า การมีวัฒนธรรม ผู้คนมีนํ้าใจ”
นี่คืออีกหนึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล ที่กำลังนำพาธุรกิจไปในแนวทางไทยแลนด์ 4.0
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,320 วันที่ 7 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560
“การที่จะทำให้เราบริหารได้สำเร็จ...นิ มองว่า เราต้องเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อกึ๋น หรือ sense ของตัวเอง เราต้องดูตัวเลข แล้วเอามา engagement ทำสื่อแล้วได้ผลอย่างไร แต่ถ้าเราดูแต่ตัวเลข โดยไม่ได้ใช้ sense ของตัวเองก็ไม่ได้”
[caption id="attachment_238721" align="aligncenter" width="335"]
จากประสบการณ์ที่เรียนจบคณะบริหารธุรกิจ เอกการบริหารจัดการโฆษณา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และ HSK Program at Beijing Chinese Language and Culture College เคยผ่านทั้งงานมาร์เก็ตติ้ง งานเอเยนซี และยังได้ร่วมงานกับไป่ตู้ ทำเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งด้าน search engine ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ เอวีจี ไทยแลนด์ ซึ่งก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่าง เอวีจี บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในจีนระดับแนวหน้าของเอเชีย และ วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ บริษัท ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นฯ ที่ทำการตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้าที่ต้องการนำธุรกิจไปเปิดตลาดที่จีน
“คุณนิ” บอกว่า การทำงานตรงนี้ ทักษะสำคัญคือ เรื่องภาษาและต้องมีความเข้าใจสื่อจีน บางคนที่ติดต่อจะลงโฆษณาผ่านสื่อจีน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมยุ่งยากนัก ต้องใช้เวลานานนักในการจะเปิดแอกเคาต์สักหนึ่งแอกเคาต์ นั่นเป็นเพราะสื่อจีนถูกควบคุมด้วยรัฐบาลจีน การจะเปิดแอกเคาต์ต้องใช้เวลานาน กฎเกณฑ์ของเขาไม่เหมือนของไทย
ความท้าทายของผู้บริหารธุรกิจดิจิตอลคนนี้ เธอบอกยังมีอีกมาก เพราะที่ผ่านมา แม้จะทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งมาตลอด และเคยทำงานกับสื่อจีนมาแล้ว แต่การเข้ามานั่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดต้องมีทักษะรอบด้าน ทั้งงานบริหาร งานขาย งานการตลาด สิ่งที่ดีคือ การทำงานมาแล้วตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆ จนมาถึงระดับบริหาร ทำให้เข้าใจน้องๆ เข้าใจทีมงานได้ดี แต่การบริหารธุรกิจที่การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้ อย่างที่ “คุณนิ” บอกข้างต้นว่า ต้องมีการ engagement ผสมผสานทั้งความรู้สึก ประสบการณ์ ตัวเลข ข้อมูล
[caption id="attachment_238723" align="aligncenter" width="329"]
“ปัญหาที่เจอ...เราทำ search engine มานาน ลูกค้ามีโจทย์ต่างกัน เราต้องวางแผนในหลายๆ มุม ส่วนของ search engine เป็นส่วนสุดท้ายแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น ต้องมีการทำพีอาร์ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย สมัยก่อนเรื่องวัดผลค่อนข้างยาก เราทำออฟไลน์ วิทยุ ทีวี วัดผลยาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องวัดผล ในมุมของเอเยนซีมันยากขึ้น เพราะมันเห็นทั้งหมด ตัวเลขมันฟ้องหมด เรามีแบบจาก 10 แบบ จะคัดให้เหลือหนึ่ง มันมีขั้นตอนมากมาย มีตัวเลขที่พิสูจน์ให้เห็นจริง แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น ก็ต้องมีเรื่องของ sense ของเราประกอบ”
โชคดีที่ว่า “คุณนิ” เป็นคนที่ชอบแก้ปัญหา เมื่อสามารถแก้ปัญหาได้ มันจะเกิดความรู้สึกดีๆ เกิดความภาคภูมิใจ การได้แก้โจทย์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่แตกต่างกัน และมีโจทย์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ จึงทำให้การทำงานสนุก
ในฐานะของคนที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงสื่อ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในไทย และที่ประเทศจีน ซีอีโอคนนี้บอกว่า ประเทศจีนจะลํ้าหน้ากว่าไทยประมาณ 5 ปี ทุกวันนี้สื่อในจีน ยังมีทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กันไป แม้จีนจะหันมาซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์แล้วเป็นส่วนใหญ่ และโดยส่วนตัวของเธอเอง ก็ยังให้ความเชื่อถือกับข่าวสารที่ได้รับจากสื่อออฟไลน์มากกว่า ขณะที่บางอุตสาหกรรม ก็ยังต้องใช้สื่อออฟไลน์ในการสื่อสารกับผู้บริโภค เพราะฉะนั้น สื่อออฟไลน์และออนไลน์ยังอยู่คู่กันไปอีกนาน
นอกจากมุมมองเรื่องการทำตลาด ในแง่การบริหาร “คุณนิ” ยังมีโอกาสได้ทำงานทั้งกับคนไทยและคนจีน เมื่อถามว่า เธอชอบวิธีการทำงานแบบไหนมากกว่ากัน ซีอีโอหญิงคนนี้เปรียบเทียบให้เห็นเลยว่า คนจีนฮ่องกงมีลักษณะที่ตรงไปตรงมา และมีความขยันมากๆ ดึกดื่นเที่ยงคืน หรือวันหยุด ก็ยังติดต่องานได้ ไม่ใช่แค่ระดับบริหาร แต่เป็นคนทำงานทุกระดับที่มีความขยันอดทนเหมือนกัน ในขณะที่คนไทย จะเรื่อยๆ ทำงานสบายๆ
“การทำงานชอบฮ่องกง อะไรก็ตรงๆ คนไทยจะติดเกรงใจ อะไร ก็แล้วแต่...จะมีพื้นที่สีเทาเยอะมาก แต่ถ้าการใช้ชีวิต ชอบเมืองไทยมากกว่า การมีวัฒนธรรม ผู้คนมีนํ้าใจ”
นี่คืออีกหนึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล ที่กำลังนำพาธุรกิจไปในแนวทางไทยแลนด์ 4.0
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,320 วันที่ 7 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560
