6 สายงานที่มีโอกาส ปรับขึ้นเงินเดือน 25-30%

จากข้อมูลการสำรวจเงินเดือนประจำปีของบริษัท โรเบิร์ต วอลเทอร์สฯ พบว่าภาพรวมของตลาดแรงงานทั้งในไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2561 ในเชิงบวกตลาดมีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของอัตราเงินเดือนในปีหน้า พนักงานที่ความพร้อมด้านทักษะความสามารถเฉพาะทาง โดยเฉพาะด้านไอที และมีประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ จะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน

เพราะดิจิตอลยังคงมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจ ทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถด้านไอที จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันด้วยช่องว่างของการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ยังมีอยู่มาก บรรดาแรงงานที่มีอายุมาก จึงมีแนวโน้มที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาด หลายองค์กรมีการปรับเปลี่ยนการเกษียณอายุงานของพนักงาน หรือเปิดโอกาสให้ผู้เกษียณอายุได้ทำงานต่อ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บริหาร

ตำแหน่งงานที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาด ในปี 2561 ได้แก่

1. ฝ่ายบัญชีการเงิน คนที่มีทักษะตรงกับความต้องการของตลาด เงินเดือนจะปรับขึ้นได้ 25-30% ตำแหน่งที่โดดเด่น คือ ฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนการเงิน การลงทุนในเงิน วิเคราะห์กำไร-ขาดทุน และที่สำคัญต้องมีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่ดี เนื่องจากต้องติดต่องานกับแผนกอื่นๆ รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ส่วนตำแหน่งด้านบัญชีที่ต้องการ อาทิ Finance Director, Internal Audit, ฝ่ายวิเคราะห์การตลาด และต้องมีทักษะการประสานงานด้านภาษี มีความเข้าใจกฎหมายไทย

2. ฝ่ายการธนาคารและการเงิน อัตราเงินเดือนหากมีการย้ายงาน จะสามารถปรับขึ้นได้ 18-20% แต่ถ้าในตำแหน่งที่ต้องไปเรียนรู้เพิ่ม จะปรับไม่ได้สูงเท่านี้ ตำแหน่งที่ต้องการมาก อาทิ เซลส์ และ Font Office เนื่องจากที่ผ่านมาภาคธนาคารชะลอตัว แบงก์ต่างชาติลดขนาดบริษัท แบงก์ไทยยังขยายตัวบ้าง

3. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือเอชอาร์ (Human Resource) กลุ่มนี้สามารถปรับเงินเดือนขึ้นได้ 15-25% เนื่องจากเป็นที่ต้องการในตลาดมาก ตำแหน่งที่ต้องการมาก ได้แก่ HR Director ต้องมีประสบการณ์และทักษะการจัดโครงสร้างขององค์การ (Organization Structure) ดีไซน์เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน พร้อมบริหารความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรได้ ทำให้พนักงานมั่นใจและมีความสุขในการทำงาน

4. ฝ่ายไอที เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่มีความต้องการในตลาดมากสามารถอัพเงินเดือนได้ 20-25% ตำแหน่งงานที่ต้องการ คือ นักวิเคราะห์ระบบ นักพัฒนาระบบขององค์กร เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจยุคดิจิตอล ทำให้ธุรกิจจำนวนมากพัฒนาแพลตฟอร์มการดำเนินธุรกิจบนโลกออนไลน์และบนมือถือ ทำให้หลายบริษัทต้องการจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในด้านดิจิตอลทั้งในเชิงการตลาดและไอที (IT) โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิตอลภายในสำนักงาน หรือมีทักษะด้านเทคโนโลยีที่เฉพาะเจาะจง นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในระบบคลาวด์ (cloud computing) ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (cyber security) และการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมาก

5. ฝ่ายขายและการตลาด ตำแหน่งงานที่โดดเด่น คือ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ทักษะที่ต้องการ คือ มัลติสกิล สามารถทำงานได้หลายอย่าง ทั้ง การขาย การตลาด การบริหารภาพรวม การวางกลยุทธ์ ทักษะด้านภาษา

6. ฝ่ายซัพพลายเชน ตำแหน่งที่ต้องการ คือ ผู้บริหารการขนส่ง ผู้บริหารการผลิต ทักษะที่ต้องการ คือ ผู้เชี่ยวชาญการบริหารต้นทุน ถ้ามีประวัติการทำงานที่ประสบความสำเร็จมาก่อนจะยิ่งได้รับการยอมรับ

สำหรับตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูงสุดใน 6 ฝ่ายนี้ คือ ฝ่ายขายและการตลาด โดยเฉพาะในธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากธุรกิจมีการขยายตัว และมีการหมุนเวียนบุคคลในตำแหน่งดังกล่าวสูง รองลงมาคือ เอชอาร์ ไอที การเงินการธนาคาร

ส่วนอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงในปี 2561 ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการย้ายฐานการผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้มีการรับพนักงานเพิ่ม โดยบริษัทต่างชาติเหล่านั้นมีความต้องการแรงงานไทยที่มีศักยภาพมากกว่าแรงงานต่างชาติ

องค์กรต่างๆ จะมีการปรับสวัสดิการ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของพนักงาน ซึ่งหลายองค์กรจะมีพนักงานในกลุ่มเจนวายมากขึ้น ดังนั้นรูปแบบการทำงานและสวัสดิการที่ยืดหยุ่นจึงมีความจำเป็น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,320 วันที่ 7 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560