ที่นี่ไม่มีความลับ : CTX ภาค 2 ‘สุวรรณภูมิ’ เตรียมผลาญงบ! 3 พันล้าน

03 ธ.ค. 2560 | 10:34 น.
 

aravan
เห็นข่าวชิงเค้กประมูลเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดในการตรวจสัมภาระ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ของบริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ (AOT)... มี 2 ประเด็นที่น่าติดตามว่าผู้บริหาร AOT อย่าง ประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ และ นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ทำหน้าที่ปกป้องและบริหารการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ เพราะการใช้งบประมาณครั้งนี้สูงถึง 3,053 ล้านบาท

tp12-3223-a-696x385

ประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท.


ประเด็นแรกบริษัท smiths แห่งอังกฤษ ซึ่งซื้อกิจการเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดยี่ห้อ CTX มาจากสหรัฐอเมริกา ยื่นหนังสือร้องเรียนและระบุว่า CTX ที่ติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2549 สามารถใช้งานต่อไปได้ถึงปี 2565 โดยไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง อันเป็นการ “ผลาญเงิน” แต่อย่างใด ดังนั้นสิ่งที่นิตินัยแจงว่าถูกบังคับเปลี่ยนเพราะเขาเลิกผลิต เครื่อง CTX 9000 เหมือนถูกบังคับเปลี่ยน จึงเป็นคำชี้แจงที่ไม่ตรงกับหนังสือยืนยันของ CTX ว่าใช้ได้อีก 5 ปี จึงเป็นคำถามว่าแล้วทำไม AOT ถึงร้อนรนใช้เงินนัก หรือคิดว่าอีก 5 ปี จะไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะอนุมัติเงินก้อนโตก้อนนี้


niti1-2


นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่


ทั้ง ประสงค์ และ นิตินัย ต้องตระหนักอย่างหนึ่งว่า เงินที่ท่านกำลังจะใช้ ไม่ใช่เงินท่าน เป็นเงินของประชาชน ทั้งประชาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ AOT เข้าไประดมทุน และเงินของประชาชนทั้งประเทศผ่านการ ถือหุ้น 70% ของกระทรวงการคลังในบริษัทแห่งนี้

ctx
อย่าไปคิดง่ายๆ ว่า ถ้าเงินไม่พอไปขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน เอากับผู้โดยสารหรือค่ายอดเครื่องบิน จากสายการบิน ทุกวันนี้ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิจัดเก็บก็สูงกว่าหลายประเทศแล้ว และไม่ใช่รายได้ที่จะเอามาให้ผู้ให้บริการใช้เงินแบบ “ไม่บันยะบันยัง” แทนที่จะเอาไปส่งคืนผู้ถือหุ้นเมื่อมีกำไร กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จะได้ผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อเอาไปพัฒนาประเทศ ไม่ใช่ต้องมารอให้ “พี่ตูน บอดี้สแลม” วิ่งเรี่ยไรเงินเพื่อเอามาบริจาคให้การศึกษา และสาธารณสุข อย่างที่เป็นอยู่  “มีความละอายกันบ้างไหม?”

Suvarnabhumi Airport
11 ปีก่อน AOT ยกให้ CTX เป็นมาตรฐานโลกที่จำเป็นต้องมีเพื่อที่เราจะมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา โดยยืนยันว่าต้อง CTX อย่างเดียวเท่านั้น จึงได้มีการติดตั้งทั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด และสายพานกระเป๋าที่มีความยาวทั้งสิ้น 26 กิโลเมตรในสนามบินสุวรรณภูมิมาวันนี้สิ่งที่ AOT กำลังทำคือ “เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า” กำลังบอกว่ายี่ห้ออื่นดีกว่าทั้งที่สนามบินส่วนใหญ่ในโลกนี้ ก็เชื่อเช่นเดียวกับ AOT ในอดีตว่า CTX ดี และถ้า เปลี่ยนจริงจะต้องมีการรื้อทิ้งทั้งตัวเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด และสายพานลำเลียงกระเป๋า เรียกได้ว่าความโกลาหลจะเกิดขึ้นในสนามบินแห่งนี้ในวันที่มีการเปลี่ยน

e-book-1-503x62
พอเดาได้เลาๆ ว่าการจัดเปลี่ยนและการเตรียม “ล็อกสเปก” ที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้มาจาก “นายหน้า” กลุ่มหนึ่งที่ต้องการ “ขายของ” กับผู้มีอำนาจบางคนที่ต้องการ “เงินทอน” ซึ่งเกิดขึ้นหลายโครงการ ใน AOT นับตั้งแต่ตั้งสนามบินแห่งนี้

คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ / หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/ ฉบับ 3319 ระหว่างวันที่ 3-6 ธ.ค. 2560 โดย..เอราวัณ