ขนส่งทางบกเอาจริงเร่งสแกนรถโดยสารลุยมาตรการปลอดภัยเดินทางช่วงปีใหม่

03 ธ.ค. 2560 | 07:39 น.
กรมการขนส่งทางบก เผยผลสแกนรถโดยสารเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 60 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอด 212 แห่งทั่วประเทศ หลังคิกออฟทุกมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางช่วงปีใหม่ 2561 ร่วมกับ บขส. อาชีวศึกษา ทหาร ตำรวจ จังหวัด และท้องถิ่น ตรวจสอบรถและคนทั้งสิ้น 13,137 คัน พบรถบกพร่องรวม 127 คัน โดยสั่งห้ามใช้รถ 1 คัน และเปลี่ยนรถใหม่ทันที 7 คัน ย้ำ!! ดำเนินการจริงจัง เด็ดขาด และลงโทษทันที ทั้งพนักงานขับรถ ผู้ประจำรถ และผู้ประกอบการ เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากรถโดยสารสาธารณะ

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยผลการ “สแกนรถโดยสาร” ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถตาม Checklist ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทหาร ตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่น ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดที่กำหนดรวม 212 แห่งทั่วประเทศ ช่วงแรกระหว่างวันที่ 1 – 7 ธันวาคม 2560 เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการ พนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ เฉพาะวันแรก (1 ธันวาคม 2560) ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถจำนวน 13,137 คัน

พบข้อบกพร่องของตัวรถจำนวน 127 คัน ในจำนวนนี้ สั่งพ่น “ห้ามใช้” ทันที จำนวน 1 คัน เนื่องจากพบว่ามีการเสริมเบาะที่นั่งผู้โดยสารเพื่อให้บรรทุกได้จำนวนมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยและถือเป็นพฤติกรรมฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังได้สั่งเปลี่ยนรถอีกจำนวน 7 คัน เนื่องจากพบข้อบกพร่องเกี่ยวกับสภาพยางล้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหากนำไปใช้งานบนท้องถนน โดยให้นำรถไปแก้ไขและเข้ารับการตรวจสภาพกับสำนักงานขนส่งจังหวัดก่อนอีกครั้งจึงจะสามารถนำกลับมาให้บริการได้

sanit

ส่วนข้อบกพร่องของพนักงานขับรถพบจำนวน 8 คน จากการไม่ปฏิบัติข้อกำหนดด้านการบริการต่างๆ เช่น การแต่งกาย การบันทึกชั่วโมงการทำงานในสมุดประจำรถ ดำเนินการลงโทษตามข้อหาความผิดแล้วทุกรายทั้งรถและคน บันทึกประวัติที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก พร้อมแจ้งเตือนผู้ประกอบการให้ตรวจสอบรถและคนในสังกัดของตนอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ หลังจากกระตุ้นเตือนผู้ประกอบการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะติดตามตรวจสอบความพร้อม การปรับปรุง และมาตรการรองรับทุกๆ ด้านของผู้ประกอบการขนส่งทุกรายที่สถานประกอบการ และเน้นย้ำความปลอดภัยและการดำเนินการเข้มข้นทุกมาตรการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 21 – 27 ธันวาคม 2560 ช่วงที่ประชาชนเริ่มทยอยเดินทาง และระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 - 3 มกราคม 2561 หากพบการกระทำความผิดซ้ำนอกจากพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถของพนักงานขับรถแล้ว จะพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งของผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยรถโดยสารเช่าเหมา (รถโดยสารไม่ประจำทาง) ระหว่างทางบนเส้นทางหลักใน 11 จังหวัด รวม 14 แห่งทั่วประเทศ

scan

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมาตรการเข้มงวดเฝ้าระวังการใช้ความเร็วของรถโดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 กรมการขนส่งทางบกจะติดตามการเดินรถทุกคัน ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีพบรถโดยสารใช้ความเร็วเกินกำหนด ประสานผู้ประกอบการขนส่งให้แจ้งผู้ขับรถให้ลดความเร็วทันที ควบคู่กับการประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดในเส้นทางจัดชุดปฏิบัติการเข้าระงับการใช้ความเร็ว สำหรับประชาชนร่วมตรวจสอบ โดยดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น DLT GPS เพื่อแจ้งเหตุมายังกรมการขนส่งทางบกได้ทันที พร้อมดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง

กรมการขนส่งทางบกยกระดับความเข้มข้น ดำเนินการจริงจัง เด็ดขาด และลงโทษทันที ทั้งพนักงานขับรถ ผู้ประจำรถ และผู้ประกอบการ ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคนได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย กำชับทุกหน่วยจัดรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางเสริมในเส้นทางให้เพียงพอทั้งเที่ยวไป-เที่ยวกลับ ไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานี พนักงานขับรถและพนักงานประจำรถแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ทุกคน เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้าย

e-book-1-503x62