ดร.ปรีดี ลีลาเศรษฐวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ รับเบอร์ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" คาดการณ์แนวโน้มราคายางมีทิศทางขาขึ้น มี 4 อานิสงส์ ดันราคายางโลกเพิ่ม ได้แก่ 1.น้ำท่วมภาคใต้ 2.ไฟไหม้โกดังชินเต่า ประเทศจีน เสียหายราว 3 หมื่นตัน ( ช่วงบ่าย วันที่ 1 ธ.ค.60) 3. ประชุมรัฐมนตรีสภาไตรภาคียางพารา (International Tripartite Rubber Council : ITRC) และบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCO) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมาได้เห็นชอบจำกัดการส่งออก 3 เดือน จำนวน 3.5 แสนตัน โดยไทยลดส่งออก 2.34 แสนตัน อินโดนีเซีย จำนวน 9.51 หมื่นตัน และมาเลเซีย จำนวน 2 หมื่นตัน และ 4.รัฐมนตรีเกษตรฯ คนล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช ประกาศแล้วว่าจะไม่นำยางในสต็อกจำนวน 1 แสนตันมาขายแข่งกับพ่อค้า สิ่งนี้จะเป็นผลที่ทำให้ราคายางพารามีผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อม
"เบื้องต้น ผู้ประกอบการได้รับแจ้งจากทางสมาคมยางพาราไทยแล้วว่า จะเริ่มภายในเดือนธันวาคม 2560 นี้โดยจะใช้ พ.ร.บ.การควบคุมยาง พ.ศ. 2542 มาจำกัดโควตาผู้ส่งออกแต่ละราย ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มได้อย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มีการหารืออะไรใดใดทั้งสิ้น จำนวนจำกัดของแต่ละประเทศ เมื่อเทียบกับของไทยน้อยมาก แทบไม่ถึง 1% ขณะที่ของไทย เกือบ 10 % มาตรการนี้อยากจะถามว่าเพื่อใครกันแน่ ยกตัวอย่างมาเลเซีย ส่งออกอย่างต่ำ 1 ล้านตัน ขณะที่ประเทศปลูกเอง 7.6 แสนตัน นำเข้ามาผลิตแล้วแปรรูปเพิ่มมูลค่า 1 ล้านตัน รวมแล้วส่งออก จำนวน 1.7 ล้านตัน ขณะที่ลดส่งออก แค่ 2 หมื่นตันเท่านั้น "
อย่างไรก็ตามทางสมาคมยางพาราไทย ได้แจ้งประกาศให้สมาชิกรับทราบภายในอย่างเป็นทางการแล้ว