BBL รุกโมบายแบงก์ รับธุรกรรมสาขาหด
แบงก์กรุงเทพประเมินปีหน้าธุรกรรมโมบายเพย์เมนต์โตพรวดสวนทางธุรกรรมสาขา-เอทีเอ็มหดตัว 3-4% ดันยอดลูกค้าสมัครโมบายแอพพลิเคชันแตะ 5 ล้านราย ปลุกธุรกรรมออนไลน์เติบโตเท่าตัว
นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2561 ธนาคารประเมินว่า Moblie Payment จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ภายหลังจากทุกธนาคารเริ่มมุ่งให้บริการผ่านระบบชำระเงิน QR Payment ซึ่งจะเริ่มเห็นผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินลดลงทั้งระบบ
[caption id="attachment_231364" align="aligncenter" width="336"]
ปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)[/caption]
ขณะที่สัญญาณธุรกรรมผ่านสาขาธนาคาร และธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ทั้งในส่วนของการโอนเงิน-ถอนเงินสด และชำระเงิน ลดลงประมาณ 3-4% โดยธุรกรรมดังกล่าวที่ลดลงถูกโยกมาอยู่บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากขึ้น และในปี 2561 จะเห็นธุรกรรมที่ลดลงอีกทั้งในส่วนของธุรกรรมผ่าน ATM และธุรกรรมการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร
จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมบน Moblie Payment ส่งผลให้ลูกค้าสมัครโมบายแอพพลิเคชันของธนาคารมีอัตราการเติบโต 2 เท่า คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีฐานลูกค้า 5 ล้านราย โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ทำธุรกรรมสมํ่าเสมอ ประมาณ 70-80% และคาดว่าในปี 2561 จะเห็นอัตราการเติบโตของโมบายแอพพลิเคชันเพิ่มขึ้น 80-90% จากปีนี้ สอดคล้องกับเทคโนโลยีและระบบการชำระเงินที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายในปี 2561 เช่น บริการชำระบิลข้ามธนาคาร และบริการระบบเรียกชำระเงิน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน หากโมบายแอพพลิเคชันสามารถพัฒนาทำธุรกรรมออนไลน์ได้มากขึ้น เช่น การขอสินเชื่อออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงข้อมูล การเปลี่ยนบัตรหรือเปิดบัตร และยิ่งหากมีนวัตกรรมการพิสูจน์ตัวตนโดยใช้ลักษณะทางชีวภาพของแต่ละบุคคล จะยิ่งทำให้ธุรกรรมออนไลน์บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเติบโตเพิ่มขึ้นชัดเจน แม้ว่าปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว จากเดิมจะเห็นธุรกรรมบนออนไลน์เฉลี่ยเพียง 10 รายการต่อเดือนต่อราย และเดือนก่อนหน้าธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 20 รายการต่อเดือนต่อราย แต่ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 27 รายการต่อเดือนต่อราย ขณะที่ธุรกรรมการรับโอนเงินรูปแบบใหม่ เติบโต 2 เท่า จากช่วงแรกที่เปิดให้บริการ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2561 ธนาคารประเมินว่า Moblie Payment จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ภายหลังจากทุกธนาคารเริ่มมุ่งให้บริการผ่านระบบชำระเงิน QR Payment ซึ่งจะเริ่มเห็นผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินลดลงทั้งระบบ
[caption id="attachment_231364" align="aligncenter" width="336"]
ขณะที่สัญญาณธุรกรรมผ่านสาขาธนาคาร และธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ทั้งในส่วนของการโอนเงิน-ถอนเงินสด และชำระเงิน ลดลงประมาณ 3-4% โดยธุรกรรมดังกล่าวที่ลดลงถูกโยกมาอยู่บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากขึ้น และในปี 2561 จะเห็นธุรกรรมที่ลดลงอีกทั้งในส่วนของธุรกรรมผ่าน ATM และธุรกรรมการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร
จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมบน Moblie Payment ส่งผลให้ลูกค้าสมัครโมบายแอพพลิเคชันของธนาคารมีอัตราการเติบโต 2 เท่า คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีฐานลูกค้า 5 ล้านราย โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ทำธุรกรรมสมํ่าเสมอ ประมาณ 70-80% และคาดว่าในปี 2561 จะเห็นอัตราการเติบโตของโมบายแอพพลิเคชันเพิ่มขึ้น 80-90% จากปีนี้ สอดคล้องกับเทคโนโลยีและระบบการชำระเงินที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายในปี 2561 เช่น บริการชำระบิลข้ามธนาคาร และบริการระบบเรียกชำระเงิน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
