พริ้นซิเพิลทุ่ม2,000ล้านลุยธุรกิจสุขภาพ
พริ้นซิเพิล ทุ่ม 2,000 ล้าน ซื้อกิจการโรงพยาบาล 3 แห่ง ต่อยอดสู่ธุรกิจสุขภาพ พร้อมวางเป้า 5 ปีทำรายได้เท่าตัว 4,000 ล้านบาท รับเทรนด์คนสนใจสุขภาพและสังคมผู้สูงอายุ ปีหน้าเตรียมควักอีก 500 ล้าน สร้างโรงพยาบาลขนาด 59 เตียงที่จังหวัดอุตรดิตถ์ รับผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียงและสปป.ลาว
นายแพทย์สุนทร ศรีทา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ได้วางเป้าหมายในระยะ 5 ปี จะมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลมู ลค่า 4,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้เข้ากิจการของบริษัท อลิอันซ์เมดิคอล เอเชีย จำกัด (AMA) ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลปากน้ำโพ โรงพยาบาลพิษณุเวช และโรงพยาบาลสหเวชพิจิตร รวมถึงรับจ้างบริหารโรงพยาบาลปิยะมินทร์ ที่ถนนบางนา-ตราด อีก 1 แห่ง โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปีนี้ มีการขยายตัวประมาณ 7-12% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากกระแสการใส่ใจดูแลสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น และแนวโน้มของสังคมขอประเทศไทยและทั่วโลก มีจำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการดูแลรักษาพยาบาล และการบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาของภาครัฐ ที่ต้องการพัฒนาให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน มีทิศทางการเติบโตในอนาคต”
สำหรับแนวทางการทำตลาดและสร้างการเติบโตในธุรกิจนั้น บริษัทได้เตรียมงบประมาณการลงทุ นไว้เฉลี่ยปีละ 10-12% เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่ มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ 3 ประการ ได้แก่ 1. คุณภาพที่ได้มาตรฐาน 2. การบริการที่ดี รวมเร็ว และอบอุ่นเป็นกันเอง และ 3. ราคาค่าบริการที่สมเหตุผลที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลของเอเอ็มเอ มีราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ 20-30%
นายแพทย์สุนทร กล่าวอีกว่า เป้าหมายตามแผนธุรกิจดังกล่าว เป็นรายได้เฉพาะการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล 3 แห่งเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเฮลท์แคร์ บริษัทยังจะขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีโอกาสและความคุ้มค่าต่อการลงทุน นอกจากนี้ ยังวางแผนการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลมากขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่ว่าจะเป็นรูปแบบใด แต่ในเบื้องต้นบริษัทเตรียมงบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ บนเนื้อที่รวม 25 ไร่ แต่จะจัดสรรมาก่อสร้างโรงพยาบาลประมาณ 11 ไร่ก่อน เป็นโรงพยาบาลขนาด 59 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียงรวมถึงผู้ป่วยจากสปป.ลาวด้วย
นายแพทย์สุนทร ศรีทา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ได้วางเป้าหมายในระยะ 5 ปี จะมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลมู ลค่า 4,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้เข้ากิจการของบริษัท อลิอันซ์เมดิคอล เอเชีย จำกัด (AMA) ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลปากน้ำโพ โรงพยาบาลพิษณุเวช และโรงพยาบาลสหเวชพิจิตร รวมถึงรับจ้างบริหารโรงพยาบาลปิยะมินทร์ ที่ถนนบางนา-ตราด อีก 1 แห่ง โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในปีนี้ มีการขยายตัวประมาณ 7-12% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากกระแสการใส่ใจดูแลสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น และแนวโน้มของสังคมขอประเทศไทยและทั่วโลก มีจำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการดูแลรักษาพยาบาล และการบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาของภาครัฐ ที่ต้องการพัฒนาให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน มีทิศทางการเติบโตในอนาคต”
สำหรับแนวทางการทำตลาดและสร้างการเติบโตในธุรกิจนั้น บริษัทได้เตรียมงบประมาณการลงทุ นไว้เฉลี่ยปีละ 10-12% เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่ มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นกลยุทธ์ 3 ประการ ได้แก่ 1. คุณภาพที่ได้มาตรฐาน 2. การบริการที่ดี รวมเร็ว และอบอุ่นเป็นกันเอง และ 3. ราคาค่าบริการที่สมเหตุผลที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลของเอเอ็มเอ มีราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ 20-30%
นายแพทย์สุนทร กล่าวอีกว่า เป้าหมายตามแผนธุรกิจดังกล่าว เป็นรายได้เฉพาะการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล 3 แห่งเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจเฮลท์แคร์ บริษัทยังจะขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีโอกาสและความคุ้มค่าต่อการลงทุน นอกจากนี้ ยังวางแผนการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลมากขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่ว่าจะเป็นรูปแบบใด แต่ในเบื้องต้นบริษัทเตรียมงบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ บนเนื้อที่รวม 25 ไร่ แต่จะจัดสรรมาก่อสร้างโรงพยาบาลประมาณ 11 ไร่ก่อน เป็นโรงพยาบาลขนาด 59 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียงรวมถึงผู้ป่วยจากสปป.ลาวด้วย
