เจโทรชวนไทยไปลงทุน

02 ธ.ค. 2560 | 13:31 น.
เพราะเหตุใดญี่ปุ่นจึงเป็น “พันธมิตรที่ดีที่สุด” ในการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 นายฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) สำนักงานใหญ่ จากประเทศญี่ปุ่น ได้ตั้งคำถามและให้เหตุผลเอาไว้ดังนี้

คำตอบคือ เพราะขณะที่ไทยมีไทยแลนด์ 4.0 ญี่ปุ่นเองก็กำลังขับเคลื่อนนโยบาย Society 5.0 ซึ่งมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหา สังคมด้วยนวัตกรรม เป้าหมายของนโยบายทั้ง 2 อย่างนี้มีความคล้ายคลึงกัน คือแก้ไขปัญหาสังคม และพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

[caption id="attachment_236092" align="aligncenter" width="503"] ฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร)[/caption]

“ดังนั้น ผมคิดว่าการพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการของทั้ง 2 ประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การลงทุนในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นั้น ประเทศ อื่นก็คงได้พูดมาแล้วเช่นกัน แต่ประเทศที่กล่าวได้ว่าจะส่งเสริมนวัตกรรมจากการเป็นพันธมิตรร่วมกันนั้น ผมคิดว่ามีเพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น”

ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นมาประกอบธุรกิจในประเทศไทยกว่า 5,500 บริษัท จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการญี่ปุ่นได้เข้ามาจับมือกับผู้ประกอบการไทยเป็นเวลายาวนาน และคงพัฒนามาถึงจุดนี้ไม่ได้หากขาดความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้ประกอบการไทย ทางเจโทรเองได้ร่วมมือกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการทำงานร่วมกันของบริษัทไทยและบริษัทญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น โครงการศึกษาระบบส่งภาพทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อเฝ้าดูการทำงานของเครื่องจักรในโรงงานที่ประเทศไทย และโครงการพัฒนาระบบการวางแผนโลจิสติกส์โดยใช้ดาวเทียมประมวลสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ เป็นต้น ปัจจุบัน มี 5 โครงการลักษณะนี้ที่กำลังดำเนินการอยู่ในประเทศไทย อนาคตยังมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นนั้นพร้อมจะร่วมมือกับบริษัทไทยก้าวไปแข่งขันในตลาดโลก

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ นอกจากนี้ ประธานเจโทรยังได้เชิญชวนบริษัทไทยเข้าไปลงทุนในประเทศ ญี่ปุ่นใน 3 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ได้แก่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมผลิตอาหาร และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี ทั้งนี้ “เสน่ห์การลงทุนในประเทศญี่ปุ่น” มีอะไรบ้าง และเพราะอะไรไทยจึงควรไปลงทุน คำตอบก็คือ ภายใต้การบริหารประเทศของนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้มีการออกมาตรการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ เช่น การลดภาษีนิติบุคคลเหลือเพียง 20% การออกกรีนการ์ดให้แก่บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญอย่างรวดเร็ว (ที่สุดในโลก) ญี่ปุ่นมีแผนจะลดเวลาพิจารณาการขออนุญาตกับหน่วยงานราชการลง 20% เพื่อเพิ่มความกระชับฉับไว เป็นต้น ที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ ทั้งไทยและญี่ปุ่นมีการเซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) หลายฉบับที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน “มีบริษัทไทยหลายรายประสบความสำเร็จในการจัดตั้งธุรกิจในญี่ปุ่น ตัวเลขการลงทุนของไทยในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วก็สูงถึง 7 หมื่นล้านเยนซึ่งมากกว่าตัวเลขการลงทุนจากเกาหลีใต้ ผมมั่นใจว่าตัวเลขดังกล่าวจะต้องเพิ่มมากขึ้นอีกอย่างแน่นอน เจโทรเองยินดีเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือและสนับสนุนการลงทุนของไทยในประเทศญี่ปุ่นต่อไป หากท่านใดสนใจที่จะไปลงทุนในญี่ปุ่นโปรดนึกถึงเจโทรเป็นอันดับแรก” ประธานเจโทรกล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,318
วันที่ 30 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2560

e-book-1-503x62